ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชุดปรามปราบน้ำมันเถื่อน ประสาน ตร.ภาค 2 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางมาตรการป้องกันลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน 4 จังหวัดภาคตะวันออก
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ริมถนนอ่าวอุดม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.ดร.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. (ปป.2) ในฐานะผู้อำนวยการงานปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อังกูร พูลเจริญ รองผบช.ภ.2 พ.ต.อ.ชัยณรงค์ ลิมปิทีป รองผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่สรรพสามิต ได้ร่วมกันวางมาตรการในการป้องกันการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน โดยเน้นในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออก หลังพบว่ามีการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน
ขณะนี้ทางรัฐบาลให้ความสนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากสร้างความเสียหายต่อรัฐ โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษี เนื่องจากมีการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน ทำให้รัฐขาดรายได้ โดยขั้นตอนการลักลอบนั้นจะมีเรือบรรทุกน้ำมันจากหลายพื้นที่ทั้งในต่างประเทศ และในประเทศมาขนถ่ายตามท่าเทียบเรือต่างๆ และจะมีรถยนต์มาคอยรับเพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่แหล่งรับซื้อ
สำหรับวันนี้มีการสาธิตของเจ้าหน้าชุดปราบปรามกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง ถึงขั้นตอนในการตรวจสอบรถบรรทุกน้ำมัน ที่นำออกมาจากคลังน้ำมันไทยออยล์ ว่า มีขั้นตอน และวิธีการดำเนินการว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร ก่อนจะนำน้ำมันดังกล่าวไปส่งให้แก่ลูกค้า ซึ่งมีขั้นตอนที่รัดกุมมาก
พล.ต.อ.ดร.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับในพื้นที่ภาคตะวันออกมี 4 จังหวัด ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา มีการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนบริเวณท่าเทียบเรือ ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ชลบุรี บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ระยอง บริเวณท่าเทียบเรือสมาคมประมงอ่าวมะขามป้อม ต.กร่ำ อ.แกลง และท่าเทียบเรือขวัญเจริญ ต.ปากน้ำประแสร์ อ.แกลง และ จ.จันทบุรี บริเวณท่าเทียบเรือสงวนสิน ต.เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ นอกจากนั้น ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ตั้งแต่ จ.ตราด ถึง จ.นราธิวาส ระยะทาง 1,894.3 กิโลเมตร
“ขณะนี้ได้วางมาตรการเข้มต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสายข่าวเพื่อติดตามขบวนการดังกล่าว นอกจากนั้น ได้เพิ่มอุปกรณ์เคลื่อนที่ในการตรวจสอบน้ำมันที่ผิดกฎหมาย หากต้องสงสัยก็สามารถขอตรวจสอบ และทราบผลได้ทันที”