xs
xsm
sm
md
lg

เต้นกันทั่วใต้! “บัญชีส่วยน้ำมันเถื่อน” ครั้งใหม่พ่นพิษ ผบ.ตร.สั่งฟันไม่เลี้ยง ตร.เอี่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บัญชีส่วยที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งกำลังรอการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่
 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เผย “บัญชีส่วยน้ำมันเถื่อน” ระลอกใหม่ที่ถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์พ่นพิษหนักแล้ว ตำรวจ ปกครอง สรรพสามิต ศุลกากร และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร้อนระอุทั้งภาคใต้ เชื่อเป็นบัญชีส่วยของจริง ด้าน “ผบ.ตร.” เต้นสั่งฟันผู้ที่เกี่ยวข้องแบบไม่เลี้ยง
 
จากกรณีที่ได้มีการนำบัญชีส่วยน้ำมันเถื่อนที่มีการระบุว่า เป็นของนายอดิเรก (ขอสวนนามสกุล) นายทุนผู้มีอิทธิพลค้าน้ำมันรายใหญ่ใน ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งมีรายชื่อผู้รับส่วยที่มีทั้งตำรวจ สรรพสามิต สันติบาล ตำรวจน้ำ ตำรวจป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ตชด. ตร.ทางหลวง ตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยอื่นๆ ในพื้นที่ จ.สงขลา จ.พัทลุง จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎร์ธานี รวมแล้วกว่า 50 รายชื่อ โดยถูกนำไปเผยแพร่สื่อสังคมออนไลน์ และมีการแชร์ต่อๆ กันอย่างไม่หยุดหย่อน อีกทั้งมีการส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยนั้น ซึ่งได้สร้างความเสียให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างมาก
 
ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นั้น มีรายชื่อตำรวจตั้งแต่ระดับ “ผบก.” ระดับ “ผกก.” จนถึงระดับ “จสต.” ในหลายหน่วยงาน เช่น ชุดปราบน้ำมันเถื่อน (ปนม.) สันติบาล ชุดปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน
 
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.มนตรี โปรตระนันต์ ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า หลังมีการเผยแพร่บัญชีส่วยน้ำมันเถื่อนดังกล่าวเกิดขึ้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้ พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ สบ 10 เป็นประธานในการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
 
ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธร 9 นั้น ตนเองก็ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาที่มาของบัญชีส่วยดังกล่าวแล้วว่าเผยแพร่จากใคร เป็นการทำบัญชีส่วยเพื่อการกลั่นแกล้ง หรือเป็นของจริง เพราะเป็นการเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นของจริง หรือเป็นการทำขึ้นมาเพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้แก่เจ้าหน้าที่หรือไม่
 
ในขณะที่ นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เนื่องจากในบัญชีจ่ายส่วยที่ถูกนำมาเผยแพร่มีการระบุว่า มี “ปลัดป้องกัน” และมี “อาสาสมัคร” หรือ “อส.” ของหลายอำเภอใน จ.สงขลา รับส่วยจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อนด้วย จึงได้สั่งการให้ทุกอำเภอที่มีชื่อในการรับส่วยน้ำมันชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยด่วนแล้ว เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ทำความเสื่อมเสียมาให้แก่ฝ่ายปกครอง ถ้าพบว่าเป็นเรื่องการรับส่วยจริงก็จะดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาด
 
ในขณะที่อีกหน่วยงานหนึ่งที่มีชื่อในบัญชีการรับส่วยน้ำมันเถื่อน คือ สรรพสามิตนั้น ผู้สื่อข่าวได้ขอทราบข้อเท็จจริงถึงการที่มีชื่อของบุคคลระดับ “ผอ.” และระดับอำเภอ ระดับจังหวัด เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะให้ข้อเท็จจริงต่อเรื่องการมีชื่อในส่วยน้ำมันเถื่อนแต่อย่างใด
 
สำหรับเบื้องลึกในการนำบัญชีส่วยน้ำมันเถื่อนไปเผยแพร่ จนนำมาซึ่งการตั้งกรรมการสอบสวนในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวว่า เกิดจากความขัดแย้งของผู้ค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ระหว่าง นายอดิเรก กับนายเอก (ขอสงวนนามสกุล) โดยนายอดิเรก เป็นผู้ลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนจากประเทศมาเลเซีย และเป็นผู้รวบรวมกลุ่มผู้ค้าที่เป็นรถกระบะดัดแปลงเพื่อทำบัญชีจ่ายส่วยให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกชุดตั้งแต่ อ.สะเดา จ.สงขลา จนถึง จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายเอก เป็นผู้หาตลาด หรือลูกค้าในการส่งน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี
 
แต่ต่อมาบุคคลทั้ง 2 ได้มีการขัดแย้งกัน เนื่องจากราคาน้ำมันในประเทศที่ลดราคาลง ทำให้นายอดิเรก ได้ส่วนต่างที่น้อยลง จึงไม่ได้จ่ายค่านายหน้าลิตรละ 2 บาทให้แก่นายเอก ที่เป็นผู้หาลูกค้าให้ และนายอดิเรก ได้ติดต่อโดยตรงกับลูกค้าของนายเอกเอง ทำให้นายเอก เกิดความไม่พอใจ และได้มีการนำเอาบัญชีในการจ่ายส่วยให้แก่เจ้าหน้าที่ไปเผยแพร่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกคน และทุกหน่วยที่รับส่วยจากนายอดิเรก เข้าใจผิด ซึ่งเป็นการทำลายการค้าน้ำมันเถื่อนของนายอดิเรก
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากเกิดการเผยแพร่บัญชีส่วยดังกล่าวขึ้น พ.ต.อ.วีรสันต์ ธารเปี่ยม ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจเข้ม และจับกุมรถยนต์ดัดแปลงทุกคันที่เข้าไปบรรทุกน้ำมันจากฝั่งมาเลเซีย ทำให้การนำน้ำมันเถื่อนจากมาเลเซียเข้ามาในฝั่งไทยต้องหยุดไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.สะเดา ที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่จับกุมรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนทุกคันที่นำน้ำมันมาเลเซียผ่านด่านศุลกากรเข้าทางชายแดน อ.สะเดา จนทำให้ตลาดการค้าน้ำมันเถื่อนที่ด่านศุลกากรสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ซบเซาลงทันที รถบรรทุกน้ำมันเถื่อนกว่า 500 คัน ต้องหยุดการขนน้ำมันไปโดยปริยาย
บัญชีส่วยที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งกำลังรอการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่
บัญชีส่วยที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งกำลังรอการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่
บัญชีส่วยที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งกำลังรอการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่
บัญชีส่วยที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งกำลังรอการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น