ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้นายจำเริญ โพธิยอด รองอธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกับนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม ติดตามและวางแผนจับกุมการลักลอบหนีศุลกากร กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.คืนที่ผ่านมา (12 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ศุลกากรจับกุมรถบรรทุกน้ำมัน หมายเลขทะเบียน 70-8397 นครราชสีมา บริเวณริมถนนปากซอยแหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ตรวจพบน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ จำนวนประมาณ 10,000 ลิตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 400,000 บาท สอบถามผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การว่า รับน้ำมันลักลอบหนีศุลกากรดังกล่าวมาจากเรือประมงดัดแปลงอีกทอดหนึ่ง
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี ของต้องห้ามต้องกำกัด หรือของที่ยังไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 ประกอบมาตรา 16, 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2482 ซึ่งมีโทษสูงสุดคือปรับ 4 เท่าของราคารวมค่าอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ จากนี้ กรมศุลกากรกำลังดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อขจัดขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนต่อไป
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 เป็นต้นมา กรมศุลกากรสามารถจับกุมการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนได้ปริมาณรวมทั้งสิ้น 61,725 ลิตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.83 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี ของต้องห้ามต้องกำกัด หรือของที่ยังไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 ประกอบมาตรา 16, 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2482 ซึ่งมีโทษสูงสุดคือปรับ 4 เท่าของราคารวมค่าอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ จากนี้ กรมศุลกากรกำลังดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อขจัดขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนต่อไป
ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 เป็นต้นมา กรมศุลกากรสามารถจับกุมการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนได้ปริมาณรวมทั้งสิ้น 61,725 ลิตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.83 ล้านบาท
