จนท.สนธิกำลังตรวจสอบรถบรรทุกน้ำมันหลังรับแจ้งสำแดงเท็จ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง เข้าตรวจสอบรถบรรทุกน้ำมัน หลังได้รับแจ้งลักลอบ และสำแดงเท็จ พร้อมเก็บตัวอย่างนำส่งกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อพิสูจน์ต่อไป


วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่ สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ร.ต.ท.วิศิษฐ์ โพธิ์ศรี ร้อยเวร สภ.หนองขาม พร้อมด้วย นายลาภิศ สอนดี เจ้าพนักงานสรรพสามิตภาค 2 พ.ต.ท.พิเภก ชูวา เจ้าหน้าที่ประจำชุดปฏิบัติการสืบสวนหาข่าวที่ 1 และพนักงานบริษัทวาย บี แอล ออยล์ จำกัด ที่ขนส่งน้ำมันดังกล่าว ร่วมเข้าตรวจสอบรถบรรทุกน้ำมันขนาด 15,000 ลิตร หลังถูกจับกุมในข้อหาลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรตาม ม.27 พ.ร.บ.ศุลกากร 2469 และสำแดงเท็จ ตาม ม.99 พ.ร.บ.ศุลกากร 2469

ในการตรวจสอบครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องตัดลวดที่ซีลวาล์วที่ปิดฝาถังน้ำมันออก เพื่อตักน้ำมันในถังดังกล่าวไปตรวจวิเคราะห์ว่ามีอะไรอยู่ในถังน้ำมันบ้าง เนื่องจากรถคันนี้ถูกจับกุมเพราะคิดว่ามีการลักลอบขนน้ำมันเตาจากเรือใหญ่ เพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้าโดยไม่เสียภาษีทางศุลกากร แต่ในความเป็นจริงเป็นการขออนุญาตนำของเสียใต้ท้องเรือใหญ่นำไปบำบัด โดยนำสิ่งที่ได้จากการบำบัดไปจำหน่ายตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ร.ต.ท.วิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับวัตถุที่ตักออกไปนั้นจะต้องส่งไปยังกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อตรวจวิเคราะห์ว่าเป็นอะไรตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ โดยต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ถึงจะทราบผล โดยหากไม่เป็นไปตามที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ก็ไม่ส่งฟ้องศาล ส่วนบริษัทฯ ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกกักรถบรรทุกน้ำมัน หรือเสียเวลาในการดำเนินธุรกิจจะดำเนินการอย่างไรต่อไปก็ว่ากันไป

ด้านนายลาภิศ สวนดี เจ้าพนักงานสรรพสามิตภาค 2 กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการป้องกันการขนถ่ายน้ำมัน หรือของเสียจากเรือใหญ่นั้น ประกอบด้วย กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต เพื่อป้องกันการลักลอบจำหน่ายน้ำมันโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย สร้างความเสียหายต่อรัฐ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีความเข้มงวดต่อมาตรการดังกล่าว

โดยในครั้งนี้หน่วยงานที่เฝ้าระวังหวั่นจะมีการลักลอบเหมือนที่ผ่านมา จึงตรวจจับดังกล่าว ดังนั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใส จึงต้องนำไปตรวจวิเคราะห์เพื่อหาข้อเท็จจริง และหลังจากนั้นก็ต้องมีการพูดจากันต่อไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น