มหาสารคาม - รมว.คมนาคมของไทยนำหารือร่วมกับคณะจีน โครงการสร้างทางรถไฟขนาดมาตรฐานสายหนองคาย-กรุงเทพฯ พร้อมดันสายหนองคาย-มาบตาพุด มั่นใจอนาคตเส้นทางรถไฟจากคุนหมิง ผ่านเวียงจันทน์ เข้าหนองคาย ทะลุมาบตาพุด เกิดแน่ รองรับการขนส่งสินค้าสู่เอเชีย ลดต้นทุนการขนส่ง พร้อมดันแผนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือสากลของเอเชียแปซิฟิก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมบุศยรินทร์ อ.เมืองหนองคาย ได้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 3 โดย พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำคณะของไทยประชุมร่วมกับนายหวัง หมิน (Huang Min) รองกรรมการผู้จัดการบริษัทไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น (Deputy General Manager China Railway Corporation) ซึ่งหลังจากร่วมประชุมคณะทั้งหมดได้ไปดูพื้นที่ก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟแห่งใหม่เพื่อเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก ทั้งในฝ่ายของไทย และฝ่ายจีน รวมถึงได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายที่กรุงเทพฯ จากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันเพื่อร่วมกันผลักดันสร้างทางรถไฟขนาดมาตรฐาน ความเร็ว 168 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นทางที่ร่วมกันคือ หนองคาย-อุดรธานี-ขอนแก่น-นครราชสีมา-สระบุรี-กรุงเทพฯ จากนั้นจะแยกออกไป แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 870 กิโลเมตร
นับเป็นเส้นทางเชื่อมโยงภาคอีสานกับภาคกลางเข้าด้วยกัน ในอนาคตทราบว่ารัฐบาลจีนมีแผนสร้างเส้นทางรถไฟทางมาตรฐาน จากคุนหมิงมายังนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อมายังจังหวัดหนองคายได้ หลังจากการหารือร่วมในครั้งที่ 3 นี้ทั้งสองฝ่ายจะนำเข้าสู่การทำบันทึกความเข้าใจร่วมกัน
ด้านนายหวัง หมิน รองกรรมการผู้จัดการบริษัทไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า รัฐบาลจีนจะบรรจุแผนพัฒนาจังหวัดหนองคายเข้าไปในแผนงานสำคัญด้านลอจิสติกส์ และอยู่ระหว่างการหารือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน การสร้างทางรถไฟหนองคาย-กรุงเทพฯ-มาบตาพุด จะมีประโยชน์ต่อประเทศไทยและกลุ่มอาเซียนเป็นอย่างมาก เส้นทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเชื่อมต่อภาคอีสาน กรุงเทพฯ และท่าเรือเข้าด้วยกันแล้ว ยังอยู่ในเส้นทางส่วนประกอบแห่งเอเชียด้วย
ทางการจีนวางแผนสร้างรถไฟจากคุนหมิง หรือยูนนาน มาเวียงจันทน์ เข้าหนองคาย สู่กรุงเทพฯ และสิ้นสุดที่ระยอง ช่องทางนี้จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต หลังจากสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้เสร็จ ทั้งจีน ลาว และไทย 3 ประเทศนี้จะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ช่วยลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าทางรถยนต์ และเครื่องบินได้เป็นอย่างมาก
ในส่วนของท่าเรือของจีน ซึ่งมี 7 ท่าเรือใหญ่ระดับโลก ปริมาณสินค้าขนส่งมากกว่า 8,000 ล้านตัน หรือร้อยละ 70 นำสินค้าออกสู่ยุโรป เอเชีย และอเมริกา โดยผ่านท่าเรือเหล่านี้ เป็นผลผลิตจากทางตะวันตกของจีน ปัจจุบันภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีประชากรหลายร้อยล้านคน จีดีพีหมื่นล้านหยวน สินค้าเหล่านี้ถ้าขนผ่านท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ระยะทาง 200 กิโลเมตรขึ้นไป ถ้าผ่านทะเลใต้ของจีนจะมีอีกหลายพันกิโลเมตร
หลังจากเส้นทางนี้สร้างเสร็จอยากพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเป็นท่าเรือสากล สินค้าจีนสามารถผ่านทางนี้ได้ จะเป็นการช่วยกระชับระยะทางและช่วยลดต้นทุน หากมีการนำสินค้าผ่านทั้งรถไฟและทางเรือร่วมกัน
ทั้งนี้ เชื่อว่าในอนาคตเมื่อเชื่อมทางรถไฟจากจีน เวียงจันทน์ หนองคาย มาบตาพุดเสร็จ นำสินค้าลงเรือมาบตาพุดได้จะเป็นมิติใหม่ของเอเชียแปซิฟิก จ.ระยองจะเป็นเมืองลอจิสติกส์ที่สำคัญมากกว่าที่เป็นอยู่