xs
xsm
sm
md
lg

พบลูกช้างป่ากุยบุรีอายุราว 5 ปี เสียชีวิตในบ่อน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี พบลูกช้างวัยประมาณ 5 ปี เสียชีวิตในบ่อน้ำ ตรวจสอบพบเป็นลูกช้างเพศผู้ที่แยกออกมาจากโขลง ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และตรวจสอบด้วยเครื่องตรวจโลหะไม่พบวัตถุต้องสงสัย คาดติดหล่มโคลนขณะลงไปกินน้ำในบ่อน้ำไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาได้

วันนี้ (24 ก.พ.) นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายประวัติสาสตรื จันทร์เทศ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี สัตวแพทย์หญิงเนตรนภา วิทิตธรรมคุณ สัตวแพทย์ประจำศูนย์เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจบ้านยางชุม ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบซากช้าง หลังจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีแจ้งว่าพบลูกช้างเพศผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ่อน้ำ K7 ในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดําริ

ในที่เกิดเหตุพบลูกช้างอายุประมาณ 3-5 ปี สูงประมาณ 150 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 300-400 กิโลกรัม เสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำซึ่งเป็นบ่อน้ำที่ชาวบ้านขุดขึ้น ความลึกประมาณ 1 เมตร สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 3-5 วัน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจสภาพในที่เกิดเหตุ รวมทั้งนำเครื่องตรวจจับโลหะมาตรวจหาโลหะที่อาจจะเป็นกระสุนปืนรอบที่เกิดเหตุ และสแกนหาตามร่างของลูกช้าง แต่ก็ไม่พบวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำในบ่อน้ำ หญ้า และดินโป่งรอบที่เกิดเหตุ ขณะที่สัตวแพทย์ประจำศูนย์เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย ได้เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ และตรวจหาสาเหตุการตายด้วย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ระบุว่า ลูกช้างป่าที่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่มักจะลาดตระเวนพบเจอในพื้นที่แปลงหญ้า K7, K2, K5 และ K9 ซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน โดยลูกช้างตัวนี้จะอาศัยหากินอยู่เพียงลำพังตัวเดียว เป็นลูกช้างที่แยกออกมาจากโขลง ซึ่งพฤติกรรมของช้างที่แยกออกมาจากโขลงนั้นจะมีด้วยกัน 2 สาเหตุ คือ เกเรมากไม่เชื่อฟังหัวหน้าโขลง หรือมีปัญหาสุขภาพ เป็นภาระของโขลง

จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบวัตถุต้องสงสัย คาดว่าลูกช้างตัวนี้น่าจะลงไปกินน้ำในบ่อ แต่ติดหล่มโคลนไต้น้ำไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาได้จนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว ล่าสุด ได้มีการทำพิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ลูกช้างตัวนี้ก่อนจะทำการฝังกลบตามหลักวิชาการแล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น