xs
xsm
sm
md
lg

เร่งช่วยลูกหมีควายป่ากุยบุรีวัย 2 เดือน ถูกแม่ทิ้งอาการโคม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประจวบคีรีขันธ์ - สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อำเภอชะอำ เร่งช่วยชีวิตลูกหมีควายเพศผู้วัย 2 เดือน หลังชาวบ้านพบถูกแม่ทิ้งในไร่สับปะรดกุยบุรี ประจวบคีรีขันธื ตรวจสอบมีอาการป่วยหนัก ชักเกร็ง สมองขาดออกซิเจน และอิดโรยเพราะขาดอาหาร และน้ำ จนเกรงว่าอาจจะไม่รอดชีวิต ขณะเดียวกัน มีการตั้งข้อสังเกตอาจเป็นฝีมือนักค้าสัตว์แอบเข้าไปในอุทยานฯ กุยบุรี ลักลอบเอาลูกหมีควายออกมา หวั่นถูกจับได้จึงปล่อยทิ้งก่อนหนีเอาตัวรอด

วันนี้ (12 ก.พ.) นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ว่า พบลูกหมีควายในพื้นที่หมู่ 7 บ้านพุบอน ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ และแจ้งไปยังสัตวแพทย์หญิงสถานีเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต่อมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้ไปยังบริเวณจุดที่ชาวบ้านพบลูกหมี จากการตรวจสอบพบเป็นลูกหมีควายเพศผู้ อายุประมาณ 2 เดือน น้ำหนัก 5 กิโลกรัม หลังจากนั้นจึงได้นำลูกหมีควายไปทำการตรวจรักษา

นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนว่า มีชาวไร่สับปะรดในพื้นที่หมู่ 7 บ้านพุบอน ต.หาดขาม อ.กุยบุรี ว่า พบลูกหมีควายเพศผู้อายุประมาณ 2 เดือน น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองพลัดหลงจากแม่ในไร่สับปะรดเขตพื้นที่รอยต่ออุทยานแห่งชาติกุยบุรี จากการตรวจสอบพบว่า ลูกหมีควายตัวดังกล่าวมีอาการป่วยหนัก สภาพอิดโรยเพราะขาดอาหารและน้ำ เกรงว่าจะไม่รอดชีวิต ทั้งนี้ ทางด้านสัตวแพทย์แจ้งว่า โอกาสรักษาอาการป่วยให้หายค่อนข้างยาก โดยพบว่าลูกหมี มีอาการป่วยทางประสาท หลังจากมีอาการชักตัวเกร็งสมองขาดออกซิเจน

นายประวัติศาสตร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ลูกหมีไม่สามารถกินอาหารได้ตามปกติ เพราะป่วยสะสมนานหลายวัน ต้องให้ยาลดความดันในสมอง ส่วนสาเหตุคาดว่าลูกหมีถูกแม่ทิ้งหนีเข้าป่า หลังจากมีสุนัขที่เฝ้าไร่สับปะรดเห่ากระโชก ประกอบลูกหมีป่วยหนัก ซึ่งตามปกติหมีควาย และช้างป่าจะไม่ทิ้งลูกหากไม่เจอภาวะวิกฤต และเบื้องต้นคาดว่า ลูกหมีควายน่าจะคลอดในพื้นที่ชายป่าใกล้ไร่สับปะรด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้นำลูกหมีส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์หัวหิน ซึ่งมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย และหากอาการดีขึ้นจึงจะส่งไปที่ศูนย์เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย ต.ห้วยทรายใต้ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต่อไป

ด้านสัตวแพทย์หญิงเนตรนภา วิทิตธรรมคุณ สถานีเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย กล่าวว่า หลังจากได้นำลูกหมีไปตรวจรักษาอาการที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันนี้ ทางสัตวแพทย์ที่ตรวจพบลูกหมีน่าจะติดเชื้อในกระแสโลหิต และมีปัญหาด้านระบบประสาท และยังมีบาดแผลที่บริเวณหูและลำคอ ซึ่งพบว่าอาการค่อนข้างหนัก และมีอาการชักเกิดขึ้นบ่อย เวลาเดินก็ก้มหัวอยู่ตลอดเวลา

ทางสัตวแพทย์จึงให้ยาลดความดันในสมอง ฉีดยา และยังพบว่ามีอาการติดเชื้อ พร้อมเก็บตัวอย่างเลือดไว้ตรวจสอบ และนำตัวลูกหมีควาย ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม กลับมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าฯ โดยในช่วง 2-3 วันนี้ ต้องนำลูกหมีควายมาตรวจดูอาการที่โรงพยาบาลสัตว์ฯ หัวหินอย่างใกล้ชิด จนกว่าอาการจะดีขึ้น และตอนนี้ก็ยังพบว่าลูกหมีควายยังมีอาการชักทุก 2 ชั่วโมง ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก ทางสัตวแพทย์ของสถานีเพาะเลี้ยงฯ จึงต้องผลัดกันเฝ้าดูอาการ และช่วยป้อนนมแพะ ซึ่งเป็นนมสำหรับลูกสัตว์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลูกหมีควายที่ชาวบ้านพบในครั้งนี้ แต่ไม่พบแม่ของมันจึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า ลูกหมีควายลงมาในพื้นที่ไร่ชาวบ้านได้อย่างไร และอายุของลูกหมีควายก็ยังน้อย ซึ่งยังเดินไม่ค่อยได้ และไม่น่าจะพลัดหลงจากแม่ และข้อสำคัญไม่พบแม่ของมันด้วย โดยปกติสัญชาตญาณของสัตว์ป่าโดยเฉพาะหมีควายน่าจะอยู่ใกล้ลูกของมันมากกว่า อีกทั้งผืนป่าในอุทยานแห่งชาติกุยบุรีเป็นพื้นที่ ซึ่งมีการพบหมีควายอาศัยอยู่

ดังนั้น จึงหวั่นวิตกกันว่า อาจจะมีการเข้าไปลักลอบเข้าไปในผืนป่าอุทยานแห่งกุยบุรี เพื่อนำลูกหมีควายออกมา แต่อาจเป็นไปได้ว่าขณะผู้ที่ผู้ลักลอบนำออกมาจากป่าลงมาด้านนอกแล้วอาจเกรงกลัวความผิด จึงได้ทิ้งลูกหมีควายตัวดังกล่าวไว้ในพื้นที่ไร่ของชาวบ้านในละแวกดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น