xs
xsm
sm
md
lg

ยันกระทิงกุยบุรีที่ตายก่อนหน้านี้ไม่กระทบการท่องเที่ยว เผยพบอีก 3 ตัวที่มีอาการป่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - อุทยานฯ กุยบุรี แจงกระทิงที่ตายในโครงการพระราชดำริฯ ล่าสุด ก่อนหน้านี้ยังไม่แน่ใจว่าเป็นปากเท้าเปื่อยหรือไม่ แต่ยืนยันไม่กระทบการท่องเที่ยว เผยยังมีอีก 3 ตัว ที่มีการป่วยที่ต้องติดตามดูอาการ พร้อมเป็นห่วงฝูงกระทิงใหม่ที่พบบริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้านด่านสิงขร อำเภอเมืองประจวบฯ กลัวถูกล่า

วันนี้ (3 ก.พ.) นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยว่า กระทิงเพศผู้ที่ตาย และได้มีการเปิดเผยจากกรมอุทยานแห่งชาติในวันนี้ เป็นกระทิงที่ตายเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยพบที่พุยายสาย ในเขตโครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหลายฝ่ายได้ร่วมกันไปตรวจสอบพบว่า ตายได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งทางสัตวแพทย์ได้เก็บตัวอย่างไปตรวจสอบผลแล้ว แต่ยังไม่ออก

“เป็นกระทิงตัวที่มีอาการเจ็บป่วย แต่ตอนนี้ก็ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นโรคปากเท้าเปื่อยเหมือนชุดที่ตายปี 2556 หรือไม่ และตอนนี้ยังพบว่า มีกระทิงอีก 3 ตัว ที่คาดว่าจะเจ็บป่วย ซึ่งอยู่ระว่างตรวจสอบ” นายประวัติศาสตร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ได้พบกระทิงตกเขาตายในเขตบ้านน้ำโจน ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี แต่ไม่น่าจะเจ็บป่วย เนื่องจากตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวมีฝูงกระทิงอย่างน้อยกว่า 20 ตัวขึ้นไปที่อาศัยหากินอยู่บริเวณดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับฝูงใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โครงการพระราชดำริฯ

“กระทิงฝูงบ้านน้ำโจนนั้นทางเรามีความเป็นห่วงเนื่องจากอยู่ใกล้ชายแดนไทย-พม่า ด้านด่านสิงขร เป็นห่วงในการล่า มากว่าเจ็บป่วย เนื่องจากปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ เพราะต้องดูแลปัญหาช้างป่าที่ออกมาหากินในพื้นที่ชาวบ้านด้วย และยืนยันว่าปัญหากระทิงตายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นนั้นไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่เปิดให้เข้าไปชมช้าง ชมกระทิงแต่อย่างใด ซึ่งช่วงนี้จะย่างเข้าสู่ฤดูแล้ง หวั่นปัญหาพืชอาหารช้างเริ่มตายแล้ว ซึ่งอาจต้องระดมรถน้ำมาดำเนินการฉีดให้แปลงหญ้ามีความชุ่มชื้นเพื่อให้ช้าง กระทิงสามารถลงมากิน” นายประวัติศาสตร์ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น