ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังทหาร ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เข้าตรวจยึดคืนผืนป่าบ้านหนองไม้แก่น ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลเกาะหลัก อีกครั้ง พบถูกบุกรุกกว่า 87 ไร่ ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
วันนี้ (30 ส.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่มีการบุกรุกปลูกสับปะรดและยางพารา ในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่น หมู่ 7 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในบริเวณหุบเขาห่างจากชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 2 กิโลเมตรอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในวันนี้พบว่า มีพื้นที่ถูกบุกรุกทั้งหมด 87 ไร่ 1 งาน 31 ตารางวา ซึ่งในบางส่วนอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี แล้วถูกบุกรุกนำมาปลูกสับปะรด และยางพาราเช่นกัน
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การลงตรวจพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนของหน่วยงานฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และป่าไม้ รวมพื้นที่ที่ตรวจสอบพบมีการบุกรุกกว่า 80 ไร่ บางส่วนอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งถือได้ว่าเป็นแปลงใหญ่
ส่วนสำคัญคือ พื้นที่แปลงนี้เป็นการปลูกสับปะรดในพื้นที่ลาดชัน ก็แสดงได้ว่ามีการแผ้วถางป่าเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเรายึดคืนพื้นที่กลับมาได้แล้วขั้นตอนต่อไปก็จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดให้มีการปลูกป่าทดแทน เพื่อปรับสภาพพื้นที่ที่ซึ่งมีการบุกรุกแผ้วถางให้กลับคืนเป็นพื้นที่ป่าต่อไป
“ผมจะใช้จุดนี้เป็นแนวทางในการตรวจสอบพื้นที่ป่าทั้งหมดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ถูกบุกรุกปลูกสับปะรด และยางพารา และจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดที่น่าจะเป็นพื้นที่ป่า พื้นที่ที่มีความลาดชันสูง เพื่อยึดคืน หรือหากประชาชนมีเบาะแสของการบุกรุกก็สามารถแจ้งมาได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบฯ และอำเภอ เพื่อจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าว