xs
xsm
sm
md
lg

รถ 6 ล้อหลับ​ในพุ่งตกสะ​พานกุยบุรีดับคาที่ 2 ร​าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - รถบรรทุก 6 ล้อหลับใน พุ่งชนราวสะพานข้ามแม่น้ำกุยบุรี ก่อนตกแม่น้ำกุยบุรี เสียชีวิตคารถ 2 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ ใช้เวลานานเกือบ 3 ชม. ถึงจะนำศพทั้งคนขับ ผู้โดยสารที่นั่งมา พร้อมรถบรรทุกขึ้นมาจากแม่น้ำได้ ท่ามกลางประชาชนที่มุงดูเป็นจำนวนมาก

เมื่อเวลา 06.10 น. วันนี้ (7 มิ.ย.) ร.ต.อ.เอนก บุญคงดี พนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า พบรถบรรทุกประสบอุบัติเหตุพุ่งชนราวสะพานบ้านบน กม.294 ถ.เพชรเกษม ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนพุ่งตกลงไปในน้ำ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าคนขับรถ และผู้โดยสารภายในเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี พร้อมอุปกรณ์กู้ภัยรุดไปยังจุดเกิดเหตุ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิฯ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากสี่แยกกุยบุรี มุ่งหน้าลงภาคใต้ ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ พบมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนมุงดูอยู่เต็มราวสะพาน โดยบนถนนมีร่องรอยการครูดของรถบรรทุก 6 ล้อ เข้ากับแผงกั้นทางเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร ก่อนที่จะพบว่าราวสะพานยาวกว่า 20 เมตร ได้ถูกชนจนหัก และพื้นสะพานบางส่วนหลุดตกลงไปในแม่น้ำกุยบุรี โดยมีแท่งปูนซีเมนต์หักเกลื่อนพื้นสะพาน

นอกจากนี้ ยังมีแท่งเหล็กที่เป็นราวสะพานหักงอห้อยอยู่ระหว่างสะพานกับพื้นด้านล่างแม่น้ำเป็นที่หวาดเสียว

เจ้าหน้าที่พบอีกว่า ที่บริเวณด้านล่างแม่น้ำกุยบุรี ซึ่งอยู่ลึกจากสะพานราว 30-40 เมตร พบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 81-6545 ชัยภูมิ ด้านข้างประตูรถ ระบุข้อความ Sika Delive พลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า และจมอยู่ภายในน้ำเกือบทั้งคัน สภาพส่วนห้องโดยสารและกระบะพังยับเยิน สิ่งของหลายอย่างลอยน้ำไป โดยมีถังน้ำขนาดใหญ่หลายใบตกอยู่ ซึ่งน้ำที่บรรจุอยู่ภายในไหลลงไปในแม่น้ำโดยไม่ทราบว่าเป็นน้ำประเภทใด

ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ยังไม่ทราบชะตากรรมของคนขับรถ และผู้โดยสาร เนื่องจากส่วนหัวจมมิดอยู่ใต้น้ำทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ ต้องใช้ให้ชุดนักประดาน้ำดำลงไปดูใต้น้ำ พบว่าส่วนหัวของรถปักอยู่ในโคลนใต้น้ำ ส่วนคนขับ และผู้โดยสารรวม 2 คนติดอยู่ภายใน และเสียชีวิตแล้วทั้ง 2 ราย แต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้ เพราะส่วนตัวรถพังยับเยิน และอัดติดคนเอาไว้ ประกอบกับคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ด้วย จึงไม่สามารถนำศพออกจากรถได้ในทันที ทำให้การกู้ศพขึ้นมาเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างมาก

จากนั้นเจ้าหน้าที่ต้องประสานนำรถยกมาผูกกับสลิงเพื่อผูกรั้งรถดึงขึ้นมาจากแม่น้ำ แต่ก็พบอุปสรรคเพราะขอบตลิ่งลาดชัน และสะพานอยู่สูง จากนั้นจึงได้พยายามปรับการลาดสลิงอีกครั้ง ด้วยการนำไปผูกติดกับต้นไม้เพื่อที่จะพลิกรถบรรทุกดังกล่าวให้ได้

ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ใช้เวลาในการช่วยเหลืออยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถนำรถขึ้นมาจากน้ำ และนำศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิง 1 ราย ชาย 1 รายออกมาได้ ท่ามกลางการมุงดูของชาวบ้าน และเสียงดีใจของชาวบ้านที่มารอลุ้นดูการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่กู้ภัยนานเกือบ 3 ชั่วโมงจนเต็มสะพาน

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุยบุรี ยังไม่สามารถว่าผู้ตายทั้ง 2 รายเป็นใคร เพราะยังไม่สามารถหาเอกสารบัตรประชาชน หรือบัตรขับขี่ภายในรถได้ เพราะมีดินโคลนอยู่เต็มไปหมด และเอกสารบางส่วนได้ลอยไปกับกระแสน้ำแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุยบุรี ได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงดังคล้ายการเกิดอุบัติเหตุรถชน แต่ไม่ทราบทิศทางว่าดังมาจากด้านใด เนื่องจากบ้านพักอยู่ติดกับถนนเพชรเกษม ทำให้ได้ยินเสียงรถตลอดเวลาจึงไม่ได้สนใจอะไร

กระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. ท้องฟ้าสว่างแล้วจึงได้ออกมาดูก็พบว่าเป็นรถบรรทุกชนราวสะพานจนตกลงไปในแม่น้ำ และมีผู้เสียงชีวิตดังกล่าวจึงได้โทรศัพท์แจ้งไปยังตำรวจ สภ.กุยบุรี

ร.ต.อ.เอนก บุญคงดี พนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนขับรถบรรทุกน่าจะหลับในเพราะมีร่องรอยรถครูดกับราวสะพานก่อนจะมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งรถได้ตกลงไปในแม่น้ำกุยบุรี ทั้งนี้ ในบริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง เพราะรถที่หลุดจากไฟแดงก็จะใช้ความเร็วเต็มที่ ประกอบกับมีทางโค้ง ผู้ขับขี่จึงควรต้องระมัดระวัง





กำลังโหลดความคิดเห็น