บุรีรัมย์ - สัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจร่องรอยบาดแผลพร้อมประเมินอาการและน้ำหนักช้างป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อเตรียมแผนยิงยาสลบและรักษา ล่าสุดพบแผลเริ่มติดเชื้อเน่าเปื่อยมีกลิ่นเหม็น
วันนี้ (3 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัตวแพทย์หญิง ศุภลักษณ์ ประจันทร์ สัตวแพทย์ปฏิบัติการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) พร้อมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจร่องรอยบาดแผลและประเมินอาการช้างป่าเพศผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีร่องรอยบาดแผลเป็นรูขนาดใหญ่คล้ายถูกกระสุนปืนยิงบริเวณขาหลังด้านซ้ายติดกับช่องท้อง เพื่อเตรียมแผนในการยิงยาสลบและวิธีการรักษา
โดยสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปในป่ายังจุดที่ช้างอาศัยอยู่ ซึ่งห่างจากบริเวณที่รถยนต์สามารถเข้าถึงได้ประมาณ 200 เมตร จากนั้นสัตวแพทย์ได้ใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูบาดแผลของช้าง เพราะเกรงว่าหากเข้าไปไกล้ช้างอาจหงุดหงิดหรือตื่นตกใจ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบร่องรอยบาดแผลพบว่าแผลที่เป็นรูคล้ายกระสุนเริ่มติดเชื้อเน่าเปื่อย และส่งกลิ่นเหม็นแล้ว จึงจำเป็นต้องวางแผนในการรักษาอย่างเร่งด่วน
สัตวแพทย์หญิง ศุภลักษณ์กล่าวว่า การลงพื้นที่มาในครั้งนี้เพื่อมาตรวจร่องรอยบาดแผลและประเมินอาการ รวมถึงน้ำหนักของช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อนำข้อมูลไปประเมินว่าจะต้องใช้ยาสลบในปริมาณเท่าไหร่ และจัดเตรียมอุปกรณ์ในการรักษาช้าง เพราะหากประเมินน้ำหนักช้างผิดพลาดจะมีผลในการวางยาสลบ และปริมาณยาในการรักษาด้วย
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร่องรอยบาดแผลและอาการของช้างป่าตัวดังกล่าว พบว่าบาดแผลเริ่มมีอาการติดเชื้อ มีกลิ่นเหม็น และเริ่มเปื่อย ซึ่งจำเป็นจะต้องวางแผนในการรักษาอย่างเป็นขั้นตอน โดยหลังจากทำการวางยาสลบแล้วจะทำการเอาหนองออก ซึ่งหนองของช้างมีลักษณะเหนียวข้นคล้ายเนยแข็ง เพราะหากปล่อยให้ไหลออกมาเองค่อนข้างจะเป็นไปได้น้อย ซึ่งต้องเอาเนื้อบริเวณที่ติดเชื้อออกมาให้มากที่สุด แล้วทำการล้างบาดแผลฉีดยาอักเสบแบบเข้าเส้น
อย่างไรก็ตาม จากการดูด้วยสายตายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบาดแผลที่พบบนตัวช้างป่าเกิดจากอะไร ต้องรอให้มีการตรวจพิสูจน์ให้ละเอียดอีกครั้ง