อดีตกำนันดังเมืองกาญจน์โต้ นอภ.ถูกกล่าวหาเป็นขบวนการปลอมแปลงสวมบัตร ปชช.ให้ต่างด้าว (ชมคลิป)

กาญจนบุรี - อดีตกำนันดังเมืองกาญจน์ แถลงข่าวโต้ นอภ.เมืองเมืองกาญจนบุรี กรณีถูกกล่าวหาเป็นขบวนการปลอมแปลงบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบุคคลหมายเลข 0 เผยหากกรมการปกครอง และ ป.ป.ท.ชี้มูลความผิด พร้อมฟ้องศาลปกครองตามสิทธิ ยันทำตามคำสั่งของอำเภอด้วยความสุจริต วอนสื่อเสนอข่าวอย่างเป็นธรรม


จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายสรธร บ่อเกิด ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร ได้นำเอกสาร 5,000 หน้า เข้าพบ พ.ต.อ.นคร พักไพโรจน์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองกาญจนบุรี แจ้งความดำเนินคดีขบวนการปลอมแปลงบัตรของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบุคคลประเภท 0 กลุ่ม 89 ผู้ถูกแจ้งความดำเนินคดีประกอบด้วย

1.นางณัฐรินีย์ สบายยิ่งดลเดช ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) อำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี 2.นางศุภิดา ลาบเหลือ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) อำเภอเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี 3.นางวีณา ธนรักษ์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) อำเภอพนมทวน จ.กาญจนบุรี 4.นายธนกร สว่างแก้ว ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) อำเภอพนมทวน จ.กาญจนบุรี 5.นางภัทรภร แสงจันทร์ เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญการ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

6.นางแสงอรุณ จุมพล พนักงานราชการ อำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี 7.นายพนมกร คล้ายเมือง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 8.นายประสาน นิยมทรัพย์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 9.นายมานพ ภาคภูมิ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 10.น.ส.กาญจนา แม้นเดช 11.นายนิรุจน์ เสมอภาค 12.นายธีระพันธุ์ เสน่ห์ชอบ 13.นายชายแดน มีคุณ 14.น.ส.ปิยะวดี กลิ่นพะยอม 15.บุคคลที่มีชื่อเล่นว่า แอล ไม่ทราบชื่อและนามสกุล และ 16.บุคคลต่างด้าว จำนวน 421 ราย

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 ก.พ.) นายประสาน นิยมทรัพย์ อายุ 69 ปี สมาชิก อบจ.กาญจนบุรี อดีตกำนันตำบลเกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย น.ส.ศศิมา อาจสูงเนิน อดีตลูกจ้างชั่วคราวของอำเภอเมืองกาญจนบุรี ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าล้อ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจเดินทางไปแถลงข่าวเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายประสาน ได้นำภาพขณะที่ นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ถือบัตรประจำตัวของบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน ของนายว่าว อายุ 31 ปี เลขบัตรประจำตัว 0-7101-89007-51-0 ที่อยู่ 71/ช หมู่ที่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี วันออกบัตร 21 ส.ค.2555 วันบัตรหมดอายุ 20 ส.ค.2565 พร้อมทั้งเอกสารคำขอมีบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ของนายว่าว มามอบให้แก่สื่อมวลชนด้วย โดยการแถลงข่าวใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ นายประสาน นิยมทรัพย์ แถลงว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2548-2549 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้บุคคลไร้สถานะที่อยู่ในประเทศไทยก่อนเดือนตุลาคม 2542 สามารถขึ้นทะเบียนเป็นผู้มีสถานะทางทะเบียนได้ ซึ่งขณะนั้นตนเป็นกำนันตำบลเกาะสำโรง ทางอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้สั่งการให้ตนทำการตรวจสอบบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ให้มาขึ้นทะเบียนต่อทางภาครัฐ ซึ่งเป็นนโยบายเพื่อการตรวจสอบ ควบคุม ดูแลบุคคลเหล่านี้ เพื่อให้ทราบจำนวนและถิ่นที่อยู่อาศัย หากไม่นำบุคคลเหล่านี้มาขึ้นทะเบียนไว้ หากบุคคลเหล่านี้ไปก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นก็จะเป็นการยากในการติดตามตรวจสอบหาผู้กระทำผิด

ตามนโยบายดังกล่าว ตนได้ทำการผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง ตนไม่ได้ดูแลบุคคลเหล่านี้เฉพาะในเขตตำบล หรืออำเภอที่ตนรับผิดชอบเท่านั้น ตนได้ผลักดันไปยังเพื่อนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกๆ ตำบลที่รู้จักให้ตรวจสอบบุคคลเหล่านี้ที่มีอยู่ในพื้นที่ มาขึ้นทะเบียนที่อำเภอของแต่ละตำบล

รวมทั้งให้คำแนะนำคำปรึกษาอย่างเต็มกำลังความสามารถของผม เพราะบุคคลเหล่านี้เมื่อนำมาขึ้นทะเบียนก็จะมีการเก็บลายนิ้วมือเอาไว้ หากมีการกระทำความผิดก็จะเก็บตรวจหาลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และถือเป็นการป้องปรามบุคคลดังกล่าวมิให้ไปกระทำความผิดด้วย ดังนั้น ผมจึงได้ทำการผลักดันมาอย่างเต็มที่โดยตลอด

ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า มีการนำบุคคลที่ไม่ได้ลงทะเบียนมาสวมทำบัตรตามที่สื่อได้นำเสนอ ซึ่งได้ระบุว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ตนขอเรียนชี้แจงว่าไม่สามารถทำได้ เพราะการนำบุคคลมาถ่ายรูปทำบัตรนั้น จะต้องมีการสแกนตรวจลายนิ้วมือก่อน ถ้าไม่ใช่บุคคลคนเดียวกัน หรือนำคนอื่นมาเพื่อจะสวมทำบัตรเครื่องก็จะแสดงรายการออกมาว่าไม่ถูกต้อง เพราะบุคคลแต่ละคนจะมีรหัสเลข 13 หลัก และลายนิ้วมือไม่ซ้ำกัน

ดังนั้น จึงขอเรียนชี้แจงว่า การนำบุคคลอื่นมาสวมทำบัตรนั้นทำไม่ได้ ส่วนที่เจ้าพนักงานนำภาพบัตรบุคคลที่มีชื่อ นายว่าว มาแสดงออกทางสื่อออนไลน์นั้น ตนได้ทำการตรวจสอบแล้วตามเอกสารสำเนาที่ขอถ่ายไว้จากต้นฉบับจริงต่อทางอำเภอเมือง รายการของ นายว่าว ที่ได้นำเสนอมานั้นก็เป็นบุคคลคนเดียวกัน ไม่ได้เป็นการสวมทำบัตรแต่อย่างใด จึงขอฝากสื่อมวลชนทุกแขนงช่วยทำการตรวจสอบรายการของ นายว่าว จากต้นฉบับเอกสารทางอำเภอเมืองกาญจนบุรีอีกทางหนึ่ง และขอให้สื่อมวลชนช่วยให้ความเป็นธรรมเสนอในข้อเท็จจริงให้ตนด้วย

“ท้ายสุดผมก็ยังเป็นห่วงอีกว่า บุคคลต่างด้าวที่ตกหล่นยังสำรวจไม่หมด ยังไม่ได้นำมาขึ้นทะเบียน จะมีนโยบายในการควบคุม ดูแลบุคคลเหล่านี้อย่างไร จึงฝากสื่อช่วยสอบถามผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องด้วย” นายประสาน นิยมทรัพย์ แถลง

นายประสาน นิยมทรัพย์ ยังให้สัมภาษณ์อีกว่า สำหรับการดำเนินการทางด้านกฎหมาย ต้องรอให้เจ้าหน้าที่กรมการปกครองทำการสอบสวนให้แล้วเสร็จก่อน หากมีการชี้มูลความผิด ตนมีความจำเป็นต้องให้ทนายเข้าไปแก้ต่างให้ และจะยื่นเรื่องให้ศาลปกครองคุ้มครองสิทธิด้วย ซึ่งจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้งหนึ่ง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการชี้มูลความผิด ซึ่งทางอำเภอเมืองกาญจนบุรี อยู่ระหว่างการทำตามขั้นตอนของอำเภออยู่ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.จะเดินทางมอบสวนตนในช่วงเช้าของวันที่ 17 ก.พ.58 นี้

ด้าน น.ส.ศศิมา อาจสูงเนิน อดีตลูกจ้างชั่วคราวของอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องของตนได้ผ่านมานานหลายปีแล้ว ขอให้รอทางอัยการก็แล้วกัน