xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่าย ปชช.ตอ.เฮ! การอนุมัติตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง-บ้านค่าย หรือไออาร์พีซีไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายน้อย ใจตั้ง อายุ 75 ปี เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ดีใจ  การอนุมัติตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง-บ้านค่ายหรือไออาร์พีซี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ระยอง - เครือข่าย ปชช.ภาคตะวันออกเฮ! หลังศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ศาลปกครองระยองรับคำฟ้อง “ลุงน้อย” พร้อมพวกรวม 91 คน ฟ้อง คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติฯ อนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากการอนุมัติตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง-บ้านค่าย หรือไออาร์พีซี

วันนี้ (12 ก.พ.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วย นายน้อย ใจตั้ง อายุ 75 ปี เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกพร้อมพวกรวม 91 คน เดินทางมารับฟังคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ศาลปกครองระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง กรณีนายน้อย ใจตั้ง อายุ 75 ปี พร้อมชาวบ้านรอบนิคมอุตสาหกรรมระยอง-บ้านค่าย (ไออาร์พีซี) อ.บ้านค่าย จ.ระยอง รวม 91 คน ฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ได้อนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีขบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่อาจเป็นผู้ได้รับผลกระทบอันเนื่องจากการอนุมัติตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง-บ้านค่าย ในพื้นที่ อ.บ้านค่าย ต่อศาลปกครองระยอง เมื่อเดือนสิงหาคม 2555 แต่ปรากฏว่า ศาลปกครองระยอง ไม่รับคำฟ้องไว้ในการพิจารณา

ทั้งนี้ นายน้อย ใจตั้ง พร้อมพวกรวม 91 คน ได้ยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด และในวันเดียวกันนี้ ศาลปกครองสูงสุด ได้นัดฟังคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ห้องพิจารณา 1 ที่ศาลปกครองระยองและศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ศาลปกครองระยองรับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้ง 91 ราย รวมทั้งผู้ร้องสอดอีก 1 ราย คือ นายเศรษฐา ปิตุเตชะ ซึ่งมาขอเป็นผู้ร้องสอดในคดีเป็นรายที่ 92 ไว้พิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า การใช้อำนาจทางปกครองในการอนุมัติให้ตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง-บ้านค่าย ในพื้นที่ อ.บ้านค่าย จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน สร้างปัญหาเรื่องมลพิษให้แก่ชาวบ้าน จึงเป็นสิทธิของชาวบ้านที่จะต้องมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการก่อสร้าง หรือคัดค้านการก่อสร้างในพื้นที่ของ อ.บ้านค่าย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หลังจากนี้ศาลปกครองระยอง จะส่งคำฟ้องทั้งหมดไปให้คู่กรณีที่ถูกฟ้องคือ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้ส่งคำให้การมายังศาลในการต่อสู้คดีต่อไป ระยะเวลาในการพิจารณาต่อสู้คดีคาดว่าต้องใช้ระยะเวลา 1 ปีครึ่ง จึงจะมีคำพิพากษาของศาลปกครองระยอง

สำหรับคดีนี้มีการฟ้องรวม 2 คดี ซึ่งคดีแรก สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ฟ้องเพิกถอนใบอนุญาตและเพิกถอนการประกาศจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง-บ้านค่าย หรือไออาร์พีซี ศาลปกครองระยอง มีคำพิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาต และเพิกถอนประกาศการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง-บ้านค่าย หรือไออาร์พีซีไปแล้ว

ขณะเดียวกัน ทางบริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้อุทธรณ์คำสั่งและทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้อุทธรณ์ไปที่ศาลปกครองสูงสุด ขณะนี้ยังไม่มีผลการพิจารณาคดี

ด้าน นายน้อย ใจตั้ง เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ศาลปกครองระยองรับคำฟ้อง หลังมีการฟ้องศาลปกครองระยอง เมื่อเดือนสิงหาคม 2555 ครั้งแรก แต่ศาลปกครองระยองไม่รับคำฟ้อง จึงต้องไปฟ้องศาลปกครองสูงสุด และวันเดียวกันนี้ มีคำสั่งให้ศาลปกครองระยอง รับคำฟ้องจากผู้ฟ้องรวมทั้งสิ้น 91 คน รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหลังรอเวลามานานกว่า 3 ปี ว่าชาวระยอง จะต้องแพ้กลุ่มนายทุนอีก แต่วันนี้ ชาวบ้าน และตนต่างดีใจที่เอาชนะกลุ่มนายทุน แต่ก็ต้องรอผลการพิจารณาต่อสู้คดีต่อไป
กลุ่มเครือข่ายปชช.ตอ. ที่ร่วมกันต่อสู้ในครั้งนี้ ดีใจการอนุมัติตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง-บ้านค่ายหรือไออาร์พีซี ไม่ชอบด้วยกฎหมา
กำลังโหลดความคิดเห็น