นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า หลังจากสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้เป็นตัวยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2556 เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามกฎหมาย หรือคำสั่งทางปกครอง หรือเพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ตามแผนแม่บทบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลชุดก่อนไว้ ขณะนี้ศาลปกครองได้นัดหมายแจ้งมายังสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ว่า ศาลปกครองจะอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีโครงการบริหารจัดการน้ำวงเงิน 350,000 ล้านบาท ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ชั้น 3 ศาลปกครองสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า คาดหวังว่าศาลปกครองน่าจะมีคำตัดสินในทิศทางเดียวกันกับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2556 ที่ให้รัฐต้องนำโครงการบริหารจัดการน้ำวงเงิน 350,000 ล้านบาท ไปเปิดรับฟังความคิดเห็นตามกระบวนการกฎหมาย โดยต้องกลับไปปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 57 มาตรา 58 มาตรา 67 และจะใช้เป็นบรรทัดฐานสำหรับโครงการบริหารจัดการน้ำ ที่ทุกรัฐบาลต้องทำตามด้วย
ทั้งนี้ หากศาลมีคำตัดสินออกมาว่าภาคประชาชนได้รับชัยชนะ ต่อไปจะเป็นหน้าที่ของภาคประชาชนในพื้นที่ที่มีโครงการบริหารจัดการน้ำลงไป ต้องทำให้กระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า คาดหวังว่าศาลปกครองน่าจะมีคำตัดสินในทิศทางเดียวกันกับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2556 ที่ให้รัฐต้องนำโครงการบริหารจัดการน้ำวงเงิน 350,000 ล้านบาท ไปเปิดรับฟังความคิดเห็นตามกระบวนการกฎหมาย โดยต้องกลับไปปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 57 มาตรา 58 มาตรา 67 และจะใช้เป็นบรรทัดฐานสำหรับโครงการบริหารจัดการน้ำ ที่ทุกรัฐบาลต้องทำตามด้วย
ทั้งนี้ หากศาลมีคำตัดสินออกมาว่าภาคประชาชนได้รับชัยชนะ ต่อไปจะเป็นหน้าที่ของภาคประชาชนในพื้นที่ที่มีโครงการบริหารจัดการน้ำลงไป ต้องทำให้กระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย