สมาคมต้านโลกร้อน ชาวระยองฟ้อง คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติละเลยปฏิบัติหน้าที่

ระยอง - สมาคมต่อต้านโลกร้อน ร่วมกับชาวระยอง ฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ต่อศาลปกครองระยอง ขอให้ศาลมีคำพิพากษาประกาศพื้นที่จังหวัดระยองทั้งหวัดเป็นเขตควบคุมมลพิษ และเขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทั้งบนบก และในทะเล

วันนี้ (1 ต.ค.) ที่ศาลปกครองระยอง อ.เมืองระยอง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และคณะ เดินทางมายื่นคำฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 ประกอบมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 โดยร่วมกับชาวระยอง จำนวน 47 ราย ในการฟ้องครั้งนี้

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) อนุมัติให้มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม ชุมชนอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม เกิดขึ้นจำนวนมากใน จ.ระยอง มีมากกว่า 28 แห่ง และกำลังขออนุญาตเพิ่มอีก

ขณะเดียวกัน นอกพื้นที่อุตสาหกรรมยังมีการปล่อยให้มีการสร้างโรงงานเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 2,700 โรงงาน เปรียบเทียบเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 1,810 โรงเท่านั้น ทำให้ขาดการติดตามตรวจสอบอย่างเข็มงวด สร้างความเดือดร้อน และเสียหายต่อชาวบ้าน มีการแอบปล่อยน้ำเสีย สารโลหะหนักลงในแหล่งน้ำประปา การรั่วไหลของสารเคมีอันตราย แต่ไม่สามารถจับผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ มีการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปทิ้งบริเวณแหล่งต้นน้ำ การรั่วไหลของน้ำมันในทะเล เกิดเหตุการณ์มีคราบน้ำมันบริเวณชายหาดแม่รำพึงบ่อยครั้ง

เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่จะต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประกาศให้พื้นที่ทั้งจ.ระยอง เป็นเขตควบคุมมลพิษ ตามมาตรา 59 และประกาศให้เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 43

แต่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไม่ดำเนินการใด สมาคมฯ และชาวระยองจึงต้องขอใช้อำนาจศาลปกครอง เพื่อมีคำพิพากษาเข้มงวดต่อการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว 1.ขอให้ศาลมีคำสั่ง หรือพิพากษาอย่างหนึ่งอย่างใดให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ใช้อำนาจตามมาตรา 59 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ประในราชกิจจานุเบกษา กำหนดให้ท้องที่จังหวัดระยองทั้งหมด ทั้งบนบก และในทะเล อาณาเขต (ยกเว้นพื้นที่ที่ได้ประกาศไปแล้วตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 32 (พ.ศ.2552) เป็นเขตควบคุมมลพิษ เพื่อดำเนินการควบคุม ลด และขจัดมลพิษตามกฎหมายข้างต้นทั้งหมดโดยเร็ว

2.ขอให้ศาลมีคำสั่ง หรือพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องออกกฎกระทรวงให้พื้นที่ในจังหวัดระยองทั้งจังหวัด ทั้งบนบกในทะเล เป็นเขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และดำเนินการตามมาตรา 44 ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

3.ขอให้ศาลมีคำสั่ง หรือพิพากษาแนะนำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดให้ท้องที่ตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 32 (พ.ศ.2552) เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม และดำเนินการตามมาตรา 44 ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา