อุดรธานี - ตร.สภ.เพ็ญ-ป่าไม้บุกจับกุมชาวบ้านรับจ้างขุดดิน แผ้วถาง บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติบ้านสังซา แต่นายจ้างแสดงตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ อ้างเป็นที่ดินมรดก ทำกินมาตั้งแต่รุ่นพ่อจนตกทอดถึงรุ่นลูก
เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ ภูขาว รอง ผกก.สส.สภ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่ศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุดรธานี รับแจ้งว่ามีชาวบ้านบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบ้านสังซา หมู่ 8 ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อด.15 เพ็ญ นำกำลัง 20 นายไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ท้ายหมู่บ้าน ห่างจากวัดป่าพุทธคุณธรรมไปเพียง 500 เมตร พบมีการไถดินยกคันล้อมแปลงนาเนื้อที่ 4 ไร่ ฝั่งตรงข้ามขุดเป็นสระน้ำลึกลง 3 เมตร เนื้อที่ 2 งาน มีรถแบ็กโฮสีเขียวจอดอยู่ ใกล้กันมีรถบรรทุกสิบล้อมิตซูบิชิ สีขาว 2 คัน คันแรก ทะเบียน 82-6471 อุดรธานี และอีกคันทะเบียน 82-2310 อุดรธานี จึงได้ตรวจยึด และควบคุมตัวนายพิชิต โคตรหัสดี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 8 ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายสิทธิ์ ชิงสงคราม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 383 หมู่ 14 ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และนายเกษมฉัน โนนยะโส อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 69 ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
สอบสวนทั้ง 3 คนสารภาพว่า นายจ้างคือ นายอภิรักษ์ จันทา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ 1 ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง ว่าจ้างให้มาขุดดินทำเป็นสระน้ำ ค่าแรงวันละ 500 บาทต่อคน ซึ่งพวกตนได้เข้ามาขุดดินได้ 2 วันแล้ว โดยไม่ทราบว่าเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ต่อมา นางอำนวย ธาตุไพบูลย์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 หมู่ 8 ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี แสดงตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ดินผืนนี้โดยบอกว่าเป็นมรดก เพราะที่ดิน 10 ไร่ผืนนี้สมัยพ่อของตนเคยยื่นเรื่องขอหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ ส.ค.1 ถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ออกให้ หลังจากนั้นก็มายกเป็นมรดกให้ลูกชาย คือน้องชายของตน ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ใน จ.ชลบุรี
โดยน้องชายได้มอบที่ดินให้ตนทำกิน จึงได้ว่าจ้างเจ้าของรถแบ็กโฮมาขุดสระน้ำให้ ซึ่งแลกเอากับดินที่ขุดไปขายต่อให้ชาวบ้านที่ต้องการถมที่ ส่วนที่มีการไถดินยกคันคูนาเป็นแปลงนั้นไม่ทราบว่าเป็นของใคร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าได้ตรวจสอบพิกัดและแผนที่ พบว่าพื้นที่นี้ตลอดแนวสองข้างทางอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โซน E รอมอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
พ.ต.ท.พิชัยรัชช์กล่าวว่า จะทำการขยายผลต่อว่ามีชาวบ้านอีกกี่รายที่อ้างกรรมสิทธิ์ แต่เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายพิชิต นายสิทธิ์ และนายเกษมฉัน ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และข้อหายึดถือครอบครองเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พร้อมกับตรวจรถยึดทั้ง 3 คันไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป