สุราษฎร์ธานี - สุราษฎร์ฯ เผยนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าอยู่ในขั้นวิกฤตติด 1 ใน 33 จังหวัดทั่วประเทศ รัฐเร่งตีกรอบป้องผืนป่าสมบูรณ์ พร้อมจัดชุด ฉก.หาข้อมูลพร้อมสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ และสร้างจิตสำนึกให้ชุมชนในพื้นที่ต่างๆ มีการรักษ์ป่า และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ
นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ถูกบุกรุกอยู่ในขั้นวิกฤตติด 1 ใน 33 จังหวัดทั่วประเทศ สาเหตุที่ทำให้พื้นที่ป่าของจังหวัดสุราษฏร์ธานี ลดลงเกิดจากสภาพปัญหาเศรษฐกิจ และสังคม โดยราษฎรบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่อง และมีผู้มีอิทธิพลที่หวังผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ และที่ดินอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนให้ราษฎรในพื้นที่เข้าครอบครองพื้นที่ป่า ดังนั้น เพื่อเป็นหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าไม้ให้สัมฤทธิผลอย่างเป็นรูปธรรม สนองนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ผ่านมา
ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้จัดทำแผนป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และฟื้นฟูพื้นที่ป่า โดยกำชับพร้อมขอความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ มีเป้าหมายหลักในพื้นที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อุทยานแห่งชาติเขาพนม อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ อุทยานแห่งชาติน้ำสี่ขีด พื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองยัน พื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาพนม พื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองพระยา พื้นที่ป่าหน้าซึ่งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพนม พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองท่าเนียน และพื้นที่ป่าเลนคลองพุ่มเรียง พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าย่านยาว ป่าเขาวง และป่ากระซุม
โดยจัดชุดเจ้าหน้าที่ต่างๆ เช่น อำเภอท้องที่ ทหาร ตำรวจ เพื่อดำเนินการตรวจลาดตระเวนพื้นที่ป่าไม้ และสนับสนุนข้อมูลเบาะแส สกัดกั้นการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ พร้อมทั้งจัดตั้งชุดเฉพาะกิจออกตรวจป้องกันและปราบปราม บูรณาการร่วมกันในการปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ พร้อมกับสร้างจิตสำนึกให้ชุมชนในพื้นที่ต่างๆ มีการรักษ์ป่า และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเนื้อที่ทั้งหมด 8,174,771.27 ไร่ มีพื้นที่กำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 26 ป่า เนื้อที่ 3,641,700 ไร่ และมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ส่วนใหญ่ทับซับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ คือ อุทยานแห่งชาติ จำนวน 6 แห่ง เนื้อที่ 1,476,337.50 ไร่ พื้นที่ป่าเตรียมการจัดตั้งอุทยาน จำนวน 2 แห่ง เนื้อที่ 1,139,487.25 ไร่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า จำนวน 2 แห่ง เนื้อที่ 41,344 ไร่ ในแต่ละปีจะมีการบุกรุกพื้นที่ป่าต่างๆ รวมกันนับพันไร่
นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ถูกบุกรุกอยู่ในขั้นวิกฤตติด 1 ใน 33 จังหวัดทั่วประเทศ สาเหตุที่ทำให้พื้นที่ป่าของจังหวัดสุราษฏร์ธานี ลดลงเกิดจากสภาพปัญหาเศรษฐกิจ และสังคม โดยราษฎรบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่อง และมีผู้มีอิทธิพลที่หวังผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ และที่ดินอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนให้ราษฎรในพื้นที่เข้าครอบครองพื้นที่ป่า ดังนั้น เพื่อเป็นหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าไม้ให้สัมฤทธิผลอย่างเป็นรูปธรรม สนองนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ผ่านมา
ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้จัดทำแผนป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และฟื้นฟูพื้นที่ป่า โดยกำชับพร้อมขอความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ มีเป้าหมายหลักในพื้นที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อุทยานแห่งชาติเขาพนม อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ อุทยานแห่งชาติน้ำสี่ขีด พื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองยัน พื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาพนม พื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองพระยา พื้นที่ป่าหน้าซึ่งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพนม พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองท่าเนียน และพื้นที่ป่าเลนคลองพุ่มเรียง พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าย่านยาว ป่าเขาวง และป่ากระซุม
โดยจัดชุดเจ้าหน้าที่ต่างๆ เช่น อำเภอท้องที่ ทหาร ตำรวจ เพื่อดำเนินการตรวจลาดตระเวนพื้นที่ป่าไม้ และสนับสนุนข้อมูลเบาะแส สกัดกั้นการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ พร้อมทั้งจัดตั้งชุดเฉพาะกิจออกตรวจป้องกันและปราบปราม บูรณาการร่วมกันในการปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ พร้อมกับสร้างจิตสำนึกให้ชุมชนในพื้นที่ต่างๆ มีการรักษ์ป่า และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเนื้อที่ทั้งหมด 8,174,771.27 ไร่ มีพื้นที่กำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 26 ป่า เนื้อที่ 3,641,700 ไร่ และมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ส่วนใหญ่ทับซับซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ คือ อุทยานแห่งชาติ จำนวน 6 แห่ง เนื้อที่ 1,476,337.50 ไร่ พื้นที่ป่าเตรียมการจัดตั้งอุทยาน จำนวน 2 แห่ง เนื้อที่ 1,139,487.25 ไร่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า จำนวน 2 แห่ง เนื้อที่ 41,344 ไร่ ในแต่ละปีจะมีการบุกรุกพื้นที่ป่าต่างๆ รวมกันนับพันไร่
