พิษณุโลก - ป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ บุกจับชาวบ้านรุกป่า-สร้างบ้านพักชั่วคราวในแปลงปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติเดิม พบแปรรูปไม้กระยาเลยตีแปะฝาบ้านในป่าสงวนแห่งชาติฯ เผยจำเป็นต้องจับชาวบ้านผู้ยากไร้ ขืนปล่อยไป เลื่อยยนต์ 2 ตัวไว้ในป่ามีต้นไม้ถูกโค่นอีกอื้อแน่
วันนี้ (13 ม.ค.) นายไพรัช มณีงาม ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกัน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11, นายธีรพล กาญจนโกมล สายตรวจ สายที่ 1 สบอ.11 (พิษณุโลก), นายหน่อย ภู่น้อย หัวหน้าหน่วยฯ พล 6 (พันชาลี) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก พร้อมทหาร ช.พัน.302, ตำรวจ ภ.6, ปกครองอำเภอวังทอง สนธิกำลังบุกจับผู้บุกรุกและตัดไม้ทำลายป่าในเขตแปลงปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ในเขตป่าสงวนฯ ป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย
เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 คน คือ นายสำเภา แร้งเกี้ยว เนื่องจากตรวจพบบุกรุกพื้นที่ป่าบ้านเขาหนองกบ ม.10 ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ในเขตป่าสงวนฯ 74-3-36 ไร่ พร้อมตรวจยึดไม้กระยาเลยแปรรูป 174 แผ่น คิดเป็นจำนวน 3.08 ลบ.ม.ที่นำมาตีแปะเป็นฝาบ้านพัก, ยึดอุปกรณ์กระทำความผิด คือ รถยนต์ 1 คัน, เลื่อยโซ่ยนต์ 2 เครื่อง, ปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) 1 กระบอก ฯลฯ
จากนั้นได้นำผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.วังทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ให้หน่วยฯ พล 6 กล่าวโทษดำเนินคดี
นายธีรพล กาญจนโกมล สายตรวจ สายที่ 1 สบอ.11 (พิษณุโลก) กล่าวว่า ที่จริงลูกชายของนายสำเภา แร้งเกี้ยว น่าจะเป็นผู้เลื่อยไม้และแผ้วถางป่า บังเอิญว่านายสำเภาอยู่ในที่เกิดเหตุ ทำให้ถูกจับกุมแทน
ส่วนคำถามที่ว่าการจับกุมครั้งนี้น่าจะเข้าข่ายยกเว้น ตามคำสั่ง คสช.ที่ 64 และ66/2557 ที่ไม่ให้ดำเนินการต่อผู้ยากไร้ แต่ให้จับเฉพาะนายทุน นายธีรพลบอกว่า หากปล่อยเลื่อยโซ่ยนต์อยู่ในป่าจำนวน 2 เครื่อง ป่าคงหมดอีกเพียบ
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงลงความเห็นให้ดำเนินการจับกุมนายสำเภา ตามความผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 ทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 48 แปรรูปไม้ และมีไม้หวงห้ามแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 54 ประกอบมาตรา 55 ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดินเพื่อตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ แปลงปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในเขตป่าสงวนฯ ป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย เดิมอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานฯ ปี 49 แต่ไม่มีงบประมาณดูแล และยังไม่ได้ส่งมอบให้กรมป่าไม้ ทำให้มีชาวบ้านเข้าบุกยึดถือครอง ก่อสร้างที่พักชั่วคราวอยู่ในแปลงที่ดินหวงห้าม