ทหารลุยสอบโครงการจ้างงานฤดูแล้งพิจิตร หลังชาวนาร้องถูกหักหัวคิวอื้อ

พิจิตร - ชาวนาเมืองชาละวันเข้าให้ข้อมูลต่อทหารอีกรอบ หลังร้องถูกเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานฯ หักหัวคิวค่าจ้างทำงานในฤดูแล้งตามโครงการลดพื้นที่ทำนาปรังของรัฐบาล ด้านผู้ว่าฯบอกสั่งศูนย์ดำรงธรรม และทหารตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

วันนี้ (23 ม.ค.) นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชาวนา อ.เมืองพิจิตร เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ว่า ถูกหักหัวคิวค่าแรงโครงการจ้างงานในช่วงฤดูแล้งของรัฐบาล ว่า เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด ตนเองในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร จะสั่งการให้สอบสวนอย่างจริงจัง ซึ่งแม้โครงการดังกล่าวเป็นของกระทรวงเกษตร ที่ยิงตรงอนุมัติเงินไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดงเศรษฐีพิจิตร ไม่ได้ขึ้นตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร

เมื่อราษฎรชาวพิจิตรถูกเอารัดเอาเปรียบตนเองก็ยอมไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ศูนย์ดำรงธรรมพิจิตร และฝ่ายทหาร ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการกินหัวคิวค่าแรงชาวบ้าน และการให้เช่าบัตรประชาชนไปทำบัญชีผีเพื่อเบิกค่าแรงก็จะต้องมีโทษทางวินัย และทางอาญาอย่างแน่นอน

ด้านผู้บริหารโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดงเศรษฐีพิจิตร ได้โทรศัพท์มาชี้แจงว่า เงินค่าจ้างชาวนาส่วนที่ขาดไป 900 บาท เป็นเพราะเกษตรกรผู้รับจ้างทำงานขาดงาน มาทำงานไม่ครบ 20 วัน จึงได้เงินไม่ครบ 6,000 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมากกว่า

ขณะที่ นายพรสิริชัย รอดเกิด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 4 ต.ดงป่าคำ อ.เมืองพิจิตร ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ร้องทุกข์ได้เดินทางมาพบกับ ร.อ.สุนทร ศิริสาน หัวหน้าชุดสายตรวจ กกล.รส.จทบ.จ.พช.ประจำพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยนำสมุดบัญชีธนาคาร และบัตร ATM พร้อมให้ข้อมูลแก่ฝ่ายทหารอีกครั้ง

นายพรสิริชัย บอกเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เสียความรู้สึกต่อโครงการจ้างงานเกษตรกรช่วงฤดูแล้ง จึงจะไม่ขอไปรับจ้างในโครงการดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังมีค่าแรงที่ค้างอยู่อีกหลายวัน ซึ่งก็จะรออีกระยะหนึ่ง แล้วจะนำสมุดบัญชีธนาคารไปปรับสมุดดูว่า ได้รับค่าแรงหรือไม่ ส่วนเรื่องเพื่อนบ้านที่อาจถูกกระทำในลักษณะเดียวกันกับตนนั้น ทุกคนต่างหวาดกลัวไม่ยอมมาร้องทุกข์ ตนเองก็ไม่สามารถจะไปบังคับใจใครได้

ก่อนหน้านี้ นายพรสิริชัย ได้เข้าร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางพิจิตร ว่า ตนเองและเพื่อนบ้านที่เป็นชาวนานับร้อยคนได้เข้ารับจ้างตามโครงการจ้างงานในช่วงฤดูแล้งของรัฐบาล แต่ถูก “นายเก่ง” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานชลประทานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดงเศรษฐีพิจิตร หักค่าหัวคิวจากการทำงานงวดแรกไป 900 บาท ทำให้ได้ค่าจ้างเพียง 5,100 บาท จากที่ควรได้ 6,000 บาท