พิจิตร - ตำรวจ สภ.บึงนาราง เมืองชาละวัน ยกโรงพักร้องศูนย์ดำรงธรรม ถูก ผกก.ดุด่า-ตบต่อหน้าธารกำนัล ตั้งแต่นายตำรวจระดับรอง ผกก.ยันชั้นประทวน บางครั้งไม่พอใจก็ท้าตีท้าต่อย แถมเคยชักปืนจ่อหัว-หน้าอกผู้ใต้บังคับบัญชามาแล้ว จี้ให้ย้ายพ้นพื้นที่ เบื้องต้น ผบช.ภ.6 สั่งช่วยราชการที่ บก.ภ.พิจิตร ชั่วคราวแล้ว
วันนี้ (20 ต.ค.) นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ พล.ต.ไสว พลการ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จทบ.เพชรบูรณ์ ประจำพื้นที่จังหวัดพิจิตร ได้เปิดศูนย์ดำรงธรรมให้ตำรวจจาก สภ.บึงนาราง จ.พิจิตร 45 นาย จากตำรวจทั้งโรงพักทั้งหมด 65 นายเข้าร้องทุกข์
กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงนาราง ระบุว่า พ.ต.อ.รังสรรค์ กาญจนรัตน์ ผกก.สภ.บึงนาราง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชา ชอบดุด่าว่ากล่าวและเคยใช้กำลัง รวมถึงเคยใช้อาวุธปืนจ่อที่ศีรษะและหน้าอกของผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคน หลายครั้งจนตำรวจชั้นผู้น้อยเหล่านี้ทนไม่ไหวจึงได้มาร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ย้าย ผกก.ออกนอกพื้นที่ เพราะขืนยังทำงานอยู่ร่วมกันคงได้มีการใช้กำลังชกต่อยกัน หรืออาจถึงขั้นต้องยิงกันตาย
นายตำรวจระดับชั้นยศ พ.ต.ท.นายหนึ่งกล่าวร้องทุกข์ต่อ ผวจ.ว่า ผกก.บึงนาราง เป็นบุคคลที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธง่าย โมโหเร็ว ไม่ให้เกียรติตำรวจด้วยกัน บางครั้งอยู่ในเครื่องแบบ อยู่ต่อหน้าสาธารณชน อยากด่าก็ด่า โมโหขึ้นมาก็ใช้กำลังถึงขั้นเคยตบรอง ผกก.คนหนึ่งต่อหน้าลูกน้องในโรงพักมาแล้ว
นอกจากนี้ ร้อยตำรวจตรีอีกนายหนึ่งก็เล่าประสบการณ์ว่า ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง แต่ไม่ถูกอารมณ์ ก็ถูก ผกก.บึงนารางชักปืนจ่อหัว และยังมีคนอื่นก็ถูกกระทำแบบนี้เช่นกัน บางครั้งก็ร้องท้าให้ลูกน้องออกมายิงกันตัดสินในเรื่องบางเรื่อง ซึ่งทุกคนล้วนโดนกันแทบทั้งสิ้นและทนมานานนับปี
กลุ่มตำรวจ สภ.บึงนารางระบุด้วยว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจรวมถึงชาวบ้านทั่วไปก็รู้เรื่องดีว่าใน สภ.บึงนารางมีแต่ความแตกแยก จนตำรวจชั้นผู้น้อยหมดกำลังใจทำงาน แต่ก็ไม่มีใครสั่งการแก้ไขจนวันนี้สุดจะทน จึงแต่งเครื่องแบบ ปลดอาวุธประจำกายมาร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอกำลังใจและความถูกต้องให้แก่ตำรวจชั้นผู้น้อยด้วย
หลังจากรับเรื่องร้องเรียน นายสุรชัย และ พล.ต.ไสวก็ได้โทรศัพท์สายตรงถึง ผบช.ภ.6 จึงได้ส่ง พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม รอง ผบก.ภ.6 เดินทางไปสอบข้อเท็จจริง โดยจะให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย ในเบื้องต้นได้เสนอไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ว่าขอให้ ผกก.สภ.บึงนารางไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตรเป็นการชั่วคราวเพื่อเป็นการแยกคู่กรณีออกจากกัน ทั้งนี้ เพราะถ้าไม่แยกคู่กรณีตำรวจ 40 กว่านายที่มาร้องทุกข์ก็จะไม่ยอมกลับโรงพัก โดยจะขอช่วยราชการที่จังหวัด และจะขอกางเต็นท์นอนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร โดยทุกคนบอกว่าถ้ากลับไปถ้าไม่ชกกันก็คงต้องยิงกันตายไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแน่
ภายหลัง พล.ต.ต.สรศักดิ์รายงานไปยังผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 และเห็นควรให้ย้าย พ.ต.อ.รังสรรค์ กาญจนรัตน์ ผกก.สภ.บึงนาราง ภายใน 24 ชั่วโมง ให้มาช่วยราชการที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตรเป็นการชั่วคราวก่อน ทำให้ตำรวจที่มาร้องทุกข์ พอใจและขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิม