พิจิตร - ตำรวจ ทหารปิดถนนทางหลวงหมายเลข 117 เปิดฉากไล่ล่าแก๊งค้ายาบ้าฉวยโอกาสขนยานรก 4 หมื่นเม็ดส่งมอบเครือข่ายในพื้นที่พิจิตร หลังเรียกตรวจแล้วกลับบึ่งรถหนี แถมยิงปืนสกัด จนท.อีก เจอยิงสวนเจ็บ 1 ส่วนคู่หูถูกรวบพร้อมของกลาง
วันนี้ (2 ม.ค.) พ.อ.ชัยเดช สุรวดี รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ จทบ.เพชรบูรณ์ ประจำพื้นที่จังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจที่เกิดเหตุว่า ทางฝ่ายทหารจากกองทัพภาคที่ 3 และตำรวจ ตชด.31 ค่ายเจ้าพระยาจักรีพิษณุโลก ได้เฝ้าสะกดรอยขบวนการค้ายาบ้าข้ามแดน และได้ข้อมูลชัดเจนว่า แก๊งค้ายาบ้าจะอาศัยช่วงเทศกาลปีใหม่ขนยาบ้ามาส่งมอบกันในพื้นที่พิจิตร จึงได้บูรณาการกำลังจากทุกฝ่ายเฝ้าสังเกตรถยนต์เป้าหมายเพื่อที่จะจับกุม
กระทั่งวานนี้ (1 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ได้พบคนร้าย 2 คน คือ นายสมโภช ศรีเพิ่มพูน อายุ 32 ปี และนายพณพรรณ ศุภกิจโกศล อายุ 40 ปี ทั้งคู่ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ขับรถยนต์กระบะสีเทา หมายเลขทะเบียน บษ 193 จังหวัดนครปฐม วิ่งมาบนถนนทางหลวงหมายเลข 117 ขาล่องมุ่งหน้าจะไปจังหวัดพิจิตร
ตำรวจทางหลวงที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่เมื่อทราบว่า รถเป้าหมายจะวิ่งผ่านจึงเรียกให้หยุดเพื่อจะตรวจค้น แต่คนร้ายไหวตัวขับรถหลบหนี ทหาร และตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ที่นำโดย พ.ต.ท.ยินดี เมฆโพธิ์ สว.กก.สส.ภ.พิจิตร ที่ซุ่มอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงจึงช่วยกันขับรถกระบะไล่ล่าคนร้าย ท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่น
แต่ นายพณพรรณ ศุภกิจโกศล ซึ่งนั่งมาในรถต้องสงสัยได้ฮึดสู้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจและทหารเพื่อหลบหนี จึงเกิดเหตุการณ์ดวลปืนกันขึ้นกลางถนนทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก หลักกิโลเมตรที่ 93-94 ต.วังโมกข์ อ.วชิรบารมี ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้น-ล่องสู่ภาคเหนือ จนตำรวจ สภ.วชิรบารมี ต้องปิดถนนเพื่อให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนปลอดภัย
ในที่สุดก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้ง 2 คน โดยนายพณพรรณ ศุภกิจโกศล ซึ่งเป็นผู้นั่งมาในรถกระบะ และเป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจ และทหารถูกยิงที่ไหล่ขวาอาการสาหัสต้องนำส่งรักษาตัวที่ รพ.พิจิตร ส่วนนายสมโภช ศรีเพิ่มพูน ที่เป็นคนขับถูกจับกุมตัวได้
จากนั้นชุดปฏิบัติการดังกล่าวจึงได้เข้าตรวจค้นในรถกระบะได้พบของกลางเป็นยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงปุ๋ยโดยมัดเป็นห่อ จำนวน 20 ห่อ เมื่อแกะออกนับดูจึงพบว่า เป็นยาบ้าจำนวน 4 หมื่นเม็ด จึงได้จับกุมผู้ต้องหา และนำส่งร้อยเวร สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร เพื่อทำการสอบสวนขยายผลต่อไป
การจับกุมในครั้งนี้ต้องยกผลงานให้ตำรวจกองกำกับการ ตชด.31 พิษณุโลก และทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ที่มีการข่าวที่แม่นยำ และเฝ้าติดตามขบวนการค้ายาบ้าข้ามแดนอย่างใกล้ชิดจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ในครั้งนี้
