ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกษตรกรปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศหารือผู้ประกอบการแก้ปัญหาหัวมันตกต่ำในช่วงต้นฤดูปี 58 ชี้เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณลบ ขณะจีนคู่ค้ารายใหญ่ชะลอซื้อเหตุเศรษฐกิจซบ เตรียมบุกยื่นรัฐบาลหาเงินกู้อีก 2 หมื่นล้านเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการเพื่อเก็บรักษาหัวมันในช่วง ม.ค.-เม.ย. 58 ก่อนเจอวิกฤต ระบุมาตรการรัฐช่วยเหลือที่ออกมายังไม่เพียงพอ
วันนี้ (11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการประชุมหารือแลกเปลี่ยนความเห็นถึงสถานการณ์มันสำปะหลัง ระหว่างผู้ประกอบการค้ามันสำปะหลังจากสมาคมการค้ามันสำปะหลัง นำโดย นายมาโนช วีระกุล นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับกลุ่มเกษตรกรจากสมาพันธ์ชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย นำโดย นายธีระชาติ เสยกระโทก เลขาธิการสมาพันธ์ชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย
โดยมีการหารือกันถึงแนวโน้มสถานการณ์ราคามันสำปะหลังที่จะตกต่ำในช่วงเดือน ม.ค. 2558 และผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการ รวมถึงราคาแป้งมันสำปะหลัง ราคาส่งออกมันเส้น ตัวเลขพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลัง และสรุปแนวทางปฏิรูปแก้ไขปัญหามันสำปะหลัง ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
นายมาโนช นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ผลการหารือกันวันนี้มีข้อสรุปร่วมกันในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาราคาหัวมันสำปะหลังที่คาดว่าจะตกต่ำในช่วงต้นฤดูคือเดือน ม.ค.-เม.ย. 2558 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีหัวมันออกมามาก ประกอบกับตลาดส่งออกในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนได้ส่งสัญญาณเรื่องของการประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจ โดยจากมิติ ครม.เมื่อ 2 ธ.ค. 2557 ที่ประชุมเห็นด้วยทั้ง 2 ระยะ คือ การแก้ปัญหาระยะสั้น และระยะยาว
แต่อยากเสนอทางออกที่เหมาะสมและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม คือ เรื่องมาตรการที่ภาครัฐจะเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเดิมตามมติ ครม.จะชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ในวงเงินกู้เดิม แต่จากการหารือกันแล้วในที่ประชุมมองว่าการช่วยเหลือดังกล่าวไม่สามารถที่จะตอบโจทย์หรือตอบสนองต่อซัปพลายปริมาณผลผลิตในช่วงต้นฤดูได้ เนื่องจากว่าผู้ประกอบการเองมีภาระหนี้สินที่กู้กับธนาคารค่อนข้างมากอยู่แล้ว
หากทางภาครัฐมีความจริงใจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาจริงๆ เราจึงเสนอให้หาเม็ดเงินใหม่เข้ามานอกเหนือจากผู้ประกอบการมีวงเงินประจำกับธนาคารพาณิชย์แล้ว โดยภาครัฐน่าจะหาเงินประมาณ 20,000 ล้านบาทเพื่อมาเสริมสภาพคล่อง โดยให้ภาครัฐเป็นผู้กู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์แล้วผู้ประกอบการเป็นผู้กู้ยืมจากรัฐบาลอีกทีหนึ่ง หรือผู้ประกอบการเป็นผู้กู้ยืมเองแล้วรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันวงเงินกู้ ซึ่งความสามารถแต่ละรายก็ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารพาณิชย์
ส่วนราคามันสำปะหลังที่ทางสมาพันธ์ฯ ร้องขอนั้นจะมีการหารือกันอีกครั้งหากได้รับการช่วยเหลือตามที่เสนอเพื่อหาราคาที่เหมาะสมร่วมกันอีกครั้ง
ด้าน นายธีระชาติ เสยกระโทก เลขาธิการสมาพันธ์ชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เกษตรกรเห็นด้วยกับมาตรการระยะสั้นของรัฐบาลคือการชดเชยดอกเบี้ยเพื่อชะลอการเก็บเกี่ยวผลผลิตวงเงินกู้ 25,000 ล้านบาท แต่หากผู้ประกอบการมีสภาพคล่องในการเก็บรักษามันในช่วง ม.ค.-เม.ย. 2558 ไว้ได้ก็สามารถต่อรองกับผู้ซื้อและสามารถพยุงราคาไม่ให้ตกต่ำ ซึ่งขณะนี้ราคาหัวมันที่เชื้อแป้ง 25 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 2.50-2.70 บาท แต่ราคาที่คาดการณ์ว่าจะตกต่ำอยู่ที่ประมาณ 2.00-2.30 บาท
“สำหรับมติในครั้งนี้ ทางสมาคมฯ และสมาพันธ์ฯ จะร่วมกันทำหนังสือเสนอต่อรัฐบาลโดยผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้ทบทวนมาตรการในการช่วยเหลือภายในสัปดาห์หน้า และให้ดำเนินการก่อนวิกฤตปัญหาจะเกิดขึ้น” นายธีระชาติกล่าวในตอนท้าย
