ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แบงก์ชาติอีสานแถลงสรุปภาวะเศรษฐกิจอีสานไตรมาส 3 ปี 57 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย เหตุความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงขึ้น จากสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายกระตุ้นประชาชนเกิดการใช้จ่าย ขณะที่เกษตรกรมีกำลังซื้อลดลง เหตุราคาสินค้าเกษตรหลักทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ลดลงเดียวกับทิศทางตลาดโลก
วันนี้ (4 พ.ย.) ที่ห้องประชุมบ้านพักพนักงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท.สภอ.) ริมบึงแก่นนคร ขอนแก่น จัดแถลงข่าวเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2557 โดยนายชาญชัย บุรถาวร ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมด้วยผู้บริหารส่วนงานต่างๆ ร่วมแถลงข่าว
นายชาญชัย บุรถาวร ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาสที่ 3 ปี 2557 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ชะลอลงในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสูงขึ้น หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองชัดเจนขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีทําให้ประชาชนจับจ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะการบริโภคสินค้าที่จำเป็น วัดจากการค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าและการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขยายตัว
นอกจากนี้ การใช้จ่ายของภาครัฐก็หดตัวน้อยลงจากการเบิกจ่ายที่เร่งตัวขึ้นเป็นลำดับ ตามการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ โดยเฉพาะรายจ่ายหมวดเงินเดือน แต่รายจ่ายงบลงทุนยังคงลดลง เนื่องจากการเบิกจ่ายทำได้ล่าช้ากว่าปกติ สอดคล้องกับการเบิกจ่ายระดับประเทศ
อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณ 2557 การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐโดยรวมยังคงใกล้เคียงกับปีงบประมาณ 2556
นายชาญชัยกล่าวต่อว่า ขณะที่กำลังซื้อจากรายได้เกษตรกรยังคงลดลงใกล้เคียงกับช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2557 จากผลของราคาสินค้าเกษตรหลักลดลง ทั้งราคายาง ข้าว และมันสำปะหลังที่ลดลงตามแนวโน้มราคาในตลาดโลก และผลจากการระบายสต๊อกสินค้ากษตร
แต่ด้วยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกทำให้ผลผลิตยังขยายตัว สินเชื่อของสถาบันการเงินชะลอตัวต่อเนื่อง ทั้งของธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเพิ่มความระมัดระวังการให้สินเชื่อ
ผลจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในบางสาขา ส่งผลให้ภาคธุรกิจจำนวนหนึ่งชะลอการลงทุน และบางส่วนรอความชัดเจนจากโครงการของภาครัฐ ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัว โดยเฉพาะการลงทุนในภาคการก่อสร้าง แต่เริ่มเห็นแนวโน้มของการปรับตัวที่ดีขึ้นบ้างตามการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่เริ่มหดตัวน้อยลง
อย่างไรก็ตาม การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนของ BOI เริ่มกลับมาขยายตัวจากที่หดตัวตั้งแต่ปลายปี 2556 โดยขยายตัวมากในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวการลงทุนในระยะต่อไป
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจของภาคอีสานยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.43 ชะลอลงตามราคาเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ และการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
ส่วนอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.7 และลดลงจากช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ซึ่งจะสนับสนุนให้ยังมีกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ
