กาฬสินธุ์ - สวนป่าสมเด็จ โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ร่วมกับเทศบาลตำบลภูปอ อ.เมือง เปิดกรีดยางพาราโดยการมีส่วนร่วมของราษฎรในพื้นที่ป่า ซึ่งมีปัญหาขัดแย้งกว่า 800 ไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนป่าสมเด็จ ต.ภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสุรพจน์ รัชชุศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดโครงการกรีดยางพาราโดยการมีส่วนร่วมของราษฎร มีนายพิพัฒน์ ชนินทยุทธวงศ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) นายธีระพงษ์ โคตะยันต์ หัวหน้าสวนป่าสมเด็จ หัวหน้าส่วนราชการ และระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประชาชนจาก 4 ตำบลของ อ.เมือง ร่วมประกอบพิธีพราหมณ์ พิธีสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเปิดกรีดยางพาราแปลงใหม่ ในพื้นที่สวนป่าสมเด็จของ อ.อ.ป.
นายธีระพงษ์ กล่าวว่า เดิมสวนป่าสมเด็จเป็นพื้นที่ป่าที่มีความขัดแย้งสูงอีกแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งสภาพป่าเสื่อมโทรม และปัญหาชาวบ้านแย่งพื้นที่ทำกิน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2517 ทาง ออป.ได้เปิดให้ประชาชนได้ใช้พื้นที่ป่าทดแทนตามเงื่อนไขสัมปทาน โดยเปิดให้ประชาชนปลูกสวนป่า และดูแลรักษาป่าพื้นที่ 8,418 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาตินาจารย์-ดงขวาง ครอบคลุม ต.นาจารย์ ต.ภูปอ ต.กลางหมื่น อ.เมือง และ ต.หนองแวง อ.สมเด็จ
การเข้ามามีส่วนร่วมของราษฎรในพื้นที่ป่าของรัฐ โดยรัฐเป็นเจ้าของพื้นที่ ลงทุนผ่านการบริหารจัดการของสวนป่า ราษฎรเป็นผู้ลงแรงด้วยการสมัครเข้าเป็นสมาชิกโครงการเพื่อดูแลรักษาต้นยางพารา โดยเกษตรกร 1 ครอบครัว มีพื้นที่ปลูกยางพารา 25 ไร่ ปัจจุบันสวนป่ามีพื้นที่ปลูกยางพาราแล้ว 3,011 ไร่ ราษฎรรับผลประโยชน์ 200 ครอบครัว และโครงการนี้ที่เกิดขึ้นนี้เป็นกิจกรรมที่การเปิดกรีดยางพาราแปลงใหม่เพิ่มเติม ดำเนินการโดยสมาชิกที่เข้าร่วมพัฒนาสวนป่ายางพารามาตั้งแต่ปี 2548-2550 พื้นที่ 873 ไร่
ด้าน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นอกจากส่งเสริมให้มีการปลูกป่ายางพาราในพื้นที่ของ อ.อ.ป.แล้ว ยังส่งเสริมให้มีการปลูกพืชระหว่างรอการกรีดยางพารา ซึ่งพื้นที่ปลูกสวนป่ายางพาราของ อ.อ.ป.จะเน้นให้ราษฎรเข้ามามีส่วนร่วม โดยต้องปลูกป่าร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพื้นที่สีเขียว แลเพิ่มผลผลิตทางเกษตรกรรมหลากหลายชนิดให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ
