ทหารนำทีมเคลียร์ ขอคืนที่ป่าจากนาย ตร. พบย้ายหลักเขต ทำร้านให้ลูกสาว

พะเยา - เสนาธิการจังหวัดทหารบกพะเยา นำเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ป่าไม้ ตำรวจ เข้าตรวจยึดป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต๋ำ ต้นน้ำอ่างเก็บน้ำโครงการพระราชดำริ พร้อมขอคืนที่สวนป่าจากนายตำรวจ หลังพบย้ายหลักเขตก่อนยึดครองสร้างร้านเสริมสวยติดหอพักให้ลูกสาว

พ.อ.คณเดช พงศ์บางโพธิ์ เสนาธิการจังหวัดทหารบกพะเยา นำเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต๋ำ บริเวณบ้านหม้อแกงตอง หมู่ 1 ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา วานนี้ (31 ต.ค.) หลังจากมีผู้ร้องเรียนว่า มีนายทุนจ้างชาวบ้านเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อขายเก็งกำไรให้แก่กลุ่มทุนสร้างรีสอร์ต หอพักกันอย่างเอิกเกริก เพราะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยพะเยา จนราคาที่ดินพุ่งก้าวกระโดดกว่า 10 เท่าตัว

จุดแรกที่เข้าตรวจสอบพบกำลังมีการสร้างบ้านพักในชัยภูมิบนเนินสูง สามารถมองเห็นทิวทัศน์หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา เป็นบ้านพักแบบ 2 ห้องนอน คล้ายรีสอร์ต และมีการตัดต้นไม้นำมาทำเป็นเสาบ้าน จากนั้นไปยังจุดที่ 2 ซึ่งอยู่ลึกเข้าในป่า ห่างจากจุดแรก 500 เมตร พบมีการแผ้วถางเข้าครอบครองเป็นหย่อมๆ พร้อมปลูกต้นกล้วย สร้างบ้านอยู่อาศัย และล้มป่าทำเป็นพื้นที่ปลูกข้าว และไม้ผลอื่นๆ เพื่ออ้างสิทธิทำกิน

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงเจ้าของบ้านได้หลบหนีไปก่อนแล้ว จึงได้เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าบริเวณใกล้เคียงที่เพิ่งแผวถางใหม่ โดยป่าบริเวณดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ โครงการพระราชดำริ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต๋ำ ดังนั้น ผู้ที่เข้ามาบุกถือถือว่าผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการตรวจยึดพื้นที่บุกรุกทั้งหมดกว่า 50 ไร่ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา เพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป

ต่อมา คณะของเสนาธิการจังหวัดทหารบกพะเยา ได้เข้าทำการไกล่เกลี่ยกรณีเจ้าหน้าที่สวนป่าสถานีวนวัฒนวิจัยแม่กา ได้ร้องเรียนว่า มีนายตำรวจที่ทำหอพักอยู่ข้างพื้นที่สวนป่าของสถานีวนวัฒนวิจัยแม่กา บริเวณใกล้ลานจอดรถโดยสารมหาวิทยาลัยพะเยา ได้ปลูกสร้างอาคารบุกรุกที่สวนป่า โดยการย้ายหลักเขตเข้ายึดครอง และทางสวนป่าไม่สามารถเจรจากับเจ้าของอาคารที่บุกรุกได้จนยืดเยื้อมาเป็นแรมปี ขอให้ จทบ.พะเยา เข้าดำเนินการให้ด้วย

โดยนายตำรวจคนดังกล่าวได้นำเอกสารภาพถ่ายพื้นที่ป่ามาแสดง โดยอ้างว่า มาเจรจาแทนลูกสาวที่เป็นเจ้าของร้านเสริมสวยที่บุกรุกสวนป่า ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้ดูพิกัดพื้นที่ป่าพบว่า มีการบุกรุกจริง จนนายตำรวจคนดังกล่าวพร้อมลูกสาว จึงยอมคืนส่วนที่บุกรุกโดยขอเวลา 30 วัน ในการรื้อถอนอาคารส่วนที่เกิน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกการไกล่เกลี่ยไว้เป็นหลักฐานด้วย