xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยเคลื่อนที่เร็วศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์ ลุยแก้ปัญหารุกป่าสงวนนาจารย์-ดงขวาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หน่วยเคลื่อนที่เร็วศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบพื้นที่แปลงปลูกป่า ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สวนป่าสมเด็จ เขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาตินาจารย์-ดงขวาง ต.ภูปอ และ ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
กาฬสินธุ์ - หน่วยเคลื่อนที่เร็วศูนย์ดำรงธรรม กกล.รส.จ.กาฬสินธุ์ จนท.ทรัพยากรธรรมชาติ ลงพื้นที่แก้ปัญหาทับซ้อนและการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาตินาจารย์-ดงขวาง พบชาวบ้านและนายทุนบุกปลูกมันสำปะหลังและอ้อย ซ้ำหลอกขายสิทธิกว่า 1 พันไร่

วันนี้ (19 ก.ย.) หน่วยเคลื่อนที่เร็วศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ นำโดย พ.อ.จุมพล จุมพลภักดี ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองกำลัง พ.อ.จิรัตนกฤษณ์ เหลือจินดา เสนาธิการกองกำลัง นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม นายประทีป ฤทธิกุล นายอำเภอเมือง นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และผู้นำท้องถิ่น เข้าตรวจสอบพื้นที่แปลงปลูกป่าปี 2526 ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สวนป่าสมเด็จ 1,042 ไร่ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาตินาจารย์-ดงขวาง ต.ภูปอ และ ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

การเข้าตรวจสอบครั้งนี้เป็นผลจากได้รับการร้องเรียนจากนายวัลลภ ฆารรัศมี อายุ 61 ปี พร้อมชาวบ้านรวม 95 ราย ที่ทางราชการอนุญาตให้เข้าทำกิน ตามมติของคณะกรรมการประสานงานแก้ปัญหาข้อเรียกร้องของสมัชชาเกษตรกร แต่ปัจจุบันกลับถูกชาวบ้านอีกกลุ่มและนายทุนเข้ามาจับจองบุกรุกแผ้วถางครอบครองเป็นของตนเอง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายวัลลภตัวแทนชาวบ้านที่ร้องเรียน กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนและชาวบ้านรวม 95 รายได้เคยครอบครองที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและทำกินในป่านาจารย์-ดงขวาง ก่อนที่จะประกาศเป็นที่ดินของรัฐ และต่อมาสวนป่าสมเด็จ โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้มาปลูกสร้างสวนป่าทับที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของชาวบ้าน โดยจัดตั้งเป็นแปลงปลูกป่าปี 2526 เนื้อที่ 1,042 ไร่ ต่อมาชาวบ้านเรียกร้องความเป็นธรรม โดยนำชี้แปลงดิน ซึ่งตรงกับร่องรอยการทำประโยชน์

ทั้งยังมีการตรวจสอบพิสูจน์จากทางราชการแล้วว่าสวนป่าสมเด็จทับที่ทำกินจริง กระทั่งเข้าสู่ขั้นตอนการยื่นคำขออนุญาตใช้ประโยชน์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวกลับถูกชาวบ้านกลุ่มอื่นและนายทุนเข้าไปบุกรุกทำประโยชน์ปลูกมันสำปะหลังและอ้อยจนเต็มพื้นที่ แต่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สวนป่าสมเด็จ และกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นผู้ดูแล กลับไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ปล่อยให้มีการบุกรุกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ชาวบ้านที่ผ่านกระบวนการพิสูจน์แล้วว่าสวนป่าสมเด็จทับที่ทำกินต้องเดือดร้อนและลำบาก

ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกที่ไม่ชอบด้วยหมายอย่างจริงจัง และดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้แก่ชาวบ้านทั้ง 95 รายโดยเร็วที่สุด ซึ่งได้เรียกร้องมาตั้งแต่ปี 2538 จนถึงขณะนี้เป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว หลายคนได้ล้มตายไปก่อน หลายคนต้องลำบากเนื่องจากไม่มีที่ทำกิน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบมีกลุ่มชาวบ้านกลุ่มอื่นและนายทุน เข้ามาจับจองเป็นของตนเอง โดยปลูกมันสำปะหลังและอ้อยเต็มพื้นที่ทั้ง 1,042 ไร่ และในแต่ละแปลงมีการหลอกขายสิทธิเปลี่ยนมือกันหลายราย เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่

ส่วนแนวทางแก้ปัญหา สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดจะประสานกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้แก่ราษฎรจำนวน 95 ราย ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบสิทธิจากทางราชการ และเป็นไปตามมติของคณะกรรมการประสานงานแก้ปัญหาข้อเรียกร้องของสมัชชาเกษตรกรโดยเร็ว

พร้อมกันนี้จะได้ออกประกาศให้ผู้บุกรุกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน ซึ่งหากครบกำหนดแล้วยังฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการต่อผู้บุกรุกอย่างเด็ดขาดทันที


การเข้าตรวจสอบครั้งนี้เป็นผลจาก ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกชาวบ้านบางกลุ่มและนายทุนเข้ามาจับจองบุกรุกแผ้วถางครอบครองเป็นของตนเอง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

กำลังโหลดความคิดเห็น