กกล.รส.ร้อยเอ็ดบุกตรวจสวนป่าฯ เสลภูมิ หลังถูกลอบตัดพะยูงถี่

ร้อยเอ็ด - ร้อง กกล.รส.ร้อยเอ็ด ไม้พะยูงในสวนป่าศูนย์เพาะชำกล้าไม้ อ.เสลภูมิ ถูกลอบตัดต่อเนื่อง แม้เข้าแจ้งความตำรวจแล้วยังถูกลอบตัดซ้ำ “พล.ต.นคร” นำ จนท.บุกตรวจสอบยังพบรอยถูกลอบตัดใหม่ๆ สั่งตั้งกลุ่มพิทักษ์ป่าเพื่อรักษาต้นไม้พะยูงที่เหลืออยู่

วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.นคร สุขประเสริฐ หัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จังหวัดร้อยเอ็ด นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้านการดูแลรักษาพื้นที่ป่าและทรัพยากรธรรมชาติจังหวัดร้อยเอ็ด ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เข้าตรวจสอบสวนป่าศูนย์เพาะชำกล้าไม้ อ.เสลภูมิ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 350 ไร่

หลังจากได้รับการร้องเรียนจากคนเฝ้าสวนป่าแห่งนี้ว่า ต้นพะยูงที่ปลูกมาตั้งแต่ปี 2510 จำนวนเกือบ 400 ต้น ได้มีกลุ่มลักลอบเข้ามาตัดในเวลากลางคืน หวั่นว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปจะไม่เหลือต้นไม้พะยูงในสวนป่าแห่งนี้ และที่ผ่านมาได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่พบว่ายังมีการลักลอบตัดเช่นเดิม ล่าสุดเพิ่งถูกตัดไปอีก 3 ต้น

ทั้งนี้ จากการเข้าไปตรวจสอบของหัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะ พบต้นพะยูงที่เพิ่งถูกตัดใหม่ๆ หลายตอ ขี้เลื่อยและกิ่งไม้ยังไม่ทันแห้ง โดยเจ้าหน้าที่สวนป่ายอมรับว่าดูแลสวนป่าแห่งนี้ไม่ทั่วถึง เป็นช่องโหว่ให้ถูกลักลอบตัด

พล.ต.นคร สุขประเสริฐ หัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวว่า จะต้องหารือให้มีการจัดตั้งกลุ่มพิทักษ์ป่าเพื่อรักษาต้นไม้พะยูงที่เหลืออยู่ไม่ให้ถูกลอบตัดอีก ด้วยการร่วมมือกันทุกฝ่าย โดยมีชาวบ้านเป็นแนวร่วมเพราะใช้เจ้าหน้าที่อย่างเดียวดูแลไม่ทั่วถึง

อย่างไรก็ตาม หลังจากทางคณะเข้าตรวจสอบภายในสวนป่าฯ แล้ว ขณะที่ลอดประตูรั้วเข้าไปยังวัดเสลภูมิวนาราม ที่ตั้งติดสวนป่าศูนย์เพาะชำกล้าไม้ เพื่อออกจากป่า พบว่าภายในบริเวณวัดมีขี้เลื่อยสภาพใหม่ๆ กองอยู่ และพบว่าในศาลาวัดมีไม้ยางที่ผ่านการแปรรูปใหม่กองเก็บไว้เป็นจำนวนมาก

สอบถามเจ้าหน้าที่ปกครองที่ไปด้วย ทราบว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งมาตรวจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่พบว่ามีการแปรรูปไม้ และมาตรวจสอบต่อบ่อยๆ ไม่ได้เพราะทางวัดจะปิดประตู หลังจากนั้นหัวหน้า กกล.รส.ร้อยเอ็ดได้สั่งให้ อส.ไปเชิญตัวไวยาวัจกรณ์ของวัดมาสอบถามที่มาที่ไปของไม้แปรรูปดังกล่าว

นายแสวง พงษ์ เสนา อายุ 59 ปี ไวยาวัจกรณ์ของวัด แจ้งว่า เจ้าอาวาสวัดไปปฏิบัติกิจนิมนต์ที่อื่น สำหรับไม้ยางที่เห็นดังกล่าวนำมาจากบ้านดงประเสริฐ ต.กลาง อ.เสลภูมิ ได้ไม่ถึงสัปดาห์ เพื่อแปรรูปสำหรับทำโครงหลังคาอาคารอเนกประสงค์ของวัด

ต่อมา พล.ต.นคร ได้เรียกเจ้าพนักงานจากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าไปทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นไม้ยางหวงห้าม จึงสั่งให้ทำบันทึกร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ ป่าไม้ ปกครอง และตำรวจ เพื่อควบคุมไม้ไว้ส่งมอบให้

ร.ต.อ.พูลศักดิ์ โพลังกา พนักงานสอบสวนเวร สภ.เสลภูมิ บันทึกคดี แล้วให้ติดตามเจ้าของไม้และเจ้าอาวาสวัดไปสอบสวนข้อเท็จจริงว่าได้มาโดยมีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ต่อไป