จนท.อุทยานฯ-ป่าไม้-ทหารตรวจป่าเชียงดาว พบบุกรุกหลายพันไร่

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - จนท.กรมอุทยานฯ ป่าไม่ ทหาร สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าหน่วยจัดการต้นน้ำขุนคอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หลังได้รับการร้องเรียน เบื้องต้นพบป่าถูกบุกรุกแผ้วถางกว่า 2,600 ไร่ ทั้งทำสวนส้ม ปลูกกะหล่ำปลี ไร่ข้าวโพด ฯลฯ เตรียมใช้ GPS ตรวจสอบพิกัดเต็มพื้นที่ ก่อนเร่งดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดที่มีรายชื่อแล้วภายใน 1 เดือน

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และอุทยานแห่งชาติป่าแดง ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ทำการสนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่หน่วยจัดการต้นน้ำขุนคอง อำเภอชียงดาว ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว และอุทยานแห่งชาติป่าแดง วานนี้ (16 ก.ค.) หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่า เพื่อนำพื้นที่มาทำการเกษตรจำนวนหลายพันไร่

ทั้งนี้ นายศักดิ์ดาเปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้เปิดยุทธการทวงคืนสวนป่า โดยสนธิกำลังทหารและเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ เพื่อทวงคือผืนป่าที่เป็นทรัพย์สมบัติของชาติ และฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกให้กลับคืนมาให้ได้มากที่สุด

ในส่วนของหน่วยจัดการต้นน้ำขุนคองนั้น จากการตรวจสอบพื้นที่เบื้องต้นจำนวน 2 แปลง ด้วยการเปรียบเทียบภาพถ่ายทางอากาศทับซ้อนกับภาพถ่ายทางดาวเทียม พบว่าถูกชาวบ้านได้บุกรุกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2,600 ไร่ โดยพื้นที่แผ้วถางดังกล่าวมีการเพาะปลูกพืช เช่น สวนส้ม ลูกพลับ ลูกไหน ท้อ ข้าวโพด กะหล่ำปลี และผักกาดขาว

โดยการดำเนินการหลังจากนี้ไปนั้น ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่าจะใช้เครื่อง GPS เดินสำรวจ วัดมุมโดยรอบเพื่อหาพิกัดที่ชัดเจน และจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีต่อชาวบ้านที่บุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อของผู้บุกรุกบางส่วนแล้ว

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ป่าบริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำขุนคองทั้งหมดจะเร่งดำเนินการสำรวจให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในเวลาไม่เกิน 1 เดือน

สำหรับหน่วยจัดการต้นน้ำขุนคองนั้นได้ดำเนินการฟื้นฟูป่าตั้งแต่ปี 2508 เป็นต้นมา ปัจจุบันถือเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์จำนวนกว่า 28,673 ไร่ หรือกว่า 42 แปลง แต่ที่ผ่านมากลับพบว่าชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าลีซอ ได้มีการแผ้วถางบุกรุก ทำลายป่าเพื่อนำมาทำการเกษตร โดยชาวบ้านมีพฤติกรรมแผ้วถางป่าด้วยการใช้ยาฆ่าแมลงฉีดโคนต้นไม้ บ้างก็ใช้ขวาน กรานรอบต้นไม้

จากนั้นจะใช้ไฟสุ่มโคนต้นไม้เพื่อให้ต้นไม้ยืนต้นตาย เพื่อนำพื้นที่มาเพาะปลูก ทำการเกษตร และในระยะหลังพบว่ามีนายทุนเป็นนายหน้าเข้ามากว้านซื้อที่ดินด้วย

นอกจากนี้ นายศักดิ์ดาบอกว่า ภาพรวมสวนป่าในประเทศไทยที่มีกว่า 2,000 แห่ง ทั่วประเทศถูกบุกรุกเกือบทุกแห่ง ซึ่งบางแห่งถูกบุกรุกแล้ว 100% เช่น สวนป่ายางแดง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นต้น จากนี้ไปจะเร่งดำเนินยุทธการทวงคืนสวนป่าเพื่อทวงคืนผืนป่าที่เป็น ทรัพย์สมบัติของชาติ และฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกให้กลับคืนมาให้ได้มากที่สุด