“ชาวสามชัย” ร้องกองกำลังร่วมกาฬสินธุ์จัดการนายทุนรุกป่าภูพาน

กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านอำเภอสามชัย กาฬสินธุ์ ร้องศูนย์ดำรงธรรมวอนขอให้กำลัง 4 ฝ่าย ปกครอง ตำรวจ ทหาร และป่าไม้เร่งจัดการนายทุนรุกป่าสงวนแห่งชาติภูพานกินพื้นที่กว่า 1.6 หมื่นไร่ ในเขตอำเภอสามชัย

วันนี้ (29 ก.ย.) นายดัน อันทระบุตร ส.อบต.สำราญใต้ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางจันแดง ปิดตาระพา แกนนำผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จ.กาฬสินธุ์ นายถาวร บุตรศรี หัวหน้าศูนย์ข่าวทีนิวส์ จ.กาฬสินธุ์ นำชาวบ้านท่างาม ม.6 และบ้านด้านเม็ก ม.12 ต.สำราญใต้ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ กว่า 30 คนเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อนายภุชงค์ โพธิกุฏสัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ป่าไม้ และทหาร เร่งจับกุมกลุ่มนายทุนที่เข้าไปบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูพาน ในเขต อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อปลูกยางพารา และมันสำปะหลัง ทำให้พื้นที่ป่าเสียหายกินพื้นที่มากถึง 16,000 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีทั้งกลุ่มนายทุนนักการเมืองท้องถิ่น กลุ่มอดีตข้าราชการ และผู้บุกรุกรายอื่น โดยบุกรุกรายละหลายร้อยไร่

นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวปลุกปั่นคอยให้ข้อมูลข่าวสารเท็จบิดเบือนชาวบ้านเพื่อสร้างกระแสต่อต้านจัดการปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย ทำให้เกรงว่าจะส่งผลกระทบให้พื้นที่ป่าเสียหายเพิ่มขึ้น และกระทบไปยังที่ดินทำกินที่อยู่อาศัยของชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิ โดยมีนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม พ.อ.จิรัตน์กฤษณ์ เหลืองจินดา เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอสามชัย เข้าร่วมรับเรื่อง

พร้อมกันนี้ ยังได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ป่าไม้ และทหาร เร่งสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน แก้ไขปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพาน ในเขต อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ โดยให้เร่งจัดการกับกลุ่มนายทุน กลุ่มอดีตข้าราชการ และกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งเข้าไปจับจองบุกรุกป่าสงวนรายละหลายร้อยไร่ แต่หากเป็นชาวบ้านบุกรุกปลูกมันสำปะหลัง ให้เจ้าหน้าที่ผ่อนผันจนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จ

ด้านนายภุชงค์ โพธิกุฏสัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การจัดการปัญหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูพาน โดยเฉพาะในเขต อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ยึดหลักกฎหมายและคำนึงถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเป็นหลัก เน้นตรวจจับกุมกลุ่มนายทุน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทวงคืนพื้นที่ป่าในแต่ละแปลงที่ศาลพิพากษาสิ้นสุดคดีตามแผนอาชาพิทักษ์ไพรไปแล้วหลายพันไร่

ทั้งนี้ การทวงคืนผืนป่าเจ้าหน้าที่จะผ่อนปรนให้ชาวบ้านที่บุกรุกปลูกมันสำปะหลังจนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จ แต่ห้ามเข้าไปปลูกต่ออีก พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนคนใดไม่เข้าใจให้นำเอกสารต่างๆ มายืนยันสิทธิในที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัยกับที่ว่าการอำเภอได้ทันที