กาฬสินธุ์ - กกล.รส.กาฬสินธุ์ลงนามปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าจากกลุ่มอิทธิพลที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูพาน ในเขตอำเภอสามชัย เพื่อทวงคืนผืนป่า 16,000 ไร่ พร้อมเปิดรายชื่อ นายทุนบุกรุกป่าเร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่ห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พ.อ.จักรพงษ์ กระจ่างพุ่ม รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ นายพิชญะ ยั่งยืน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 ขอนแก่น และนายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอสามชัย ร่วมกันลงนามทำบันทึกข้อตกลง เพื่อทวงคืนผืนป่าสงวนแห่งชาติภูพาน จากกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ลักลอบบุกรุกไปถึง 16,000 ไร่
โดยมี พ.อ.ฉกาจพงษ์ หงส์ทอง รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 ที่ปรึกษากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย นายอำเภอ 18 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นสักขีพยาน
นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงที่ร่วมกันลงนามครั้งนี้หมายถึงสิ่งที่ทุกฝ่ายจะร่วมกันทวงคืนผืนป่า ซึ่งขณะนี้ผลการดำเนินการพื้นที่อำเภอสามชัยได้ทำการขึ้นทะเบียนผู้บุกรุกไว้แล้วจำนวน 18 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มนายทุนและนักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปทำการบุกรุกด้วยวิธีการซื้อขายผ่านชาวบ้านและนายทุนในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จ.อุดรธานี และ จ.ขอนแก่น ทำการปลูกต้นยางพารา เพื่ออ้างสิทธิถือครอง
ดังนั้น นับจากนี้จะเป็นการจำกัดพื้นที่ระหว่างชาวบ้านกับนายทุน พร้อมกับการเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกป่า
ในส่วนที่มีการทวงคืนผืนป่ามาก่อนหน้านี้ตามคำสั่งศาลนั้น ในส่วนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์จะได้ร่วมกันทำการฟื้นฟูผืนป่าตามแผนการอาชาพิทักษ์ไพรต่อไป
สำหรับกระบวนการในการทวงคืนผืนป่าที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในพื้นที่อำเภอสามชัยมีความต่อเนื่องมากขึ้น และปรากฏมีนายทุนเริ่มหลบหนี และส่วนใหญ่พบว่านอกจากกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติ ชาวบ้าน พ่อค้าในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุดรธานีแล้ว ก็ยังมีกลุ่มอดีตนักการเมืองที่มีคดีทุจริต อดีตข้าราชการครู และข้าราชการครูที่เข้าจับจองผ่านนายหน้าในพื้นที่ จึงทำให้ผลการสำรวจป่ายังพบว่ามีการทำถนนเข้าไปจับจองพื้นที่ป่าและยังรวมถึงสิ่งปลูกสร้างจำนวนมาก
