กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ นำบวชป่าเปิดปฏิบัติการเป็นทางการ “อาชาพิทักษ์ไพร” กำลังสามฝ่ายพร้อมกดดัน พร้อมเปิดกรุบัญชีนายทุนรุกป่าสงวนแห่งชาติภูพาน 16,000 ไร่ ฝีมือ นักการเมืองท้องถิ่นพื้นที่ มี อดีต ส.ส.พรรคการเมืองใหญ่หลายคนเอี่ยว พานายทุน ห้างใหญ่ หลายจังหวัดเข้าจับจอง
วันนี้ (11 ก.ค.) ที่บริเวณผืนป่าสงวนแห่งชาติภูพาน พื้นที่ ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ นายภุชงค์ โพธิกุฏสัย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พลตรี นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.อ.จุมพล จุมพลภักดี ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอสามชัย
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 ขอนแก่น หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.3 ภูพาน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ อส. ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ตชด. ผู้นำชุมชนและชาวบ้านกว่า 300 คน ร่วมกันจัดกิจกรรมบวชป่า เพื่อเป็นการเปิดปฏิบัติการอย่างเป็นทางการ ตามแผนอาชาพิทักษ์ไพร เพื่อทำการทวงคืนผืนป่า ตามนโยบายของ คสช.
โดยกิจกรรมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ อส. และอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆ ได้นำผ้าเหลือง ไปผูกติดไว้กับต้นยาง ซึ่งถูกปลูกขึ้นโดยนายทุน จากนั้นกองกำลังผสมสามฝ่ายยังได้เข้าไปปลูกต้นไม้
พร้อมกับทำการสำรวจแนวเขตพื้นที่ป่าและพบปัญหามีการลักลอบบุกรุกของชาวบ้าน กับการเอื้อประโยชน์ของข้าราชการผู้รับผิดชอบตั้งแต่ปี 2542 จนมีการตั้งหมู่บ้านขึ้นกลางเขตป่าสงวน
นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอสามชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่โดยรวมเขตป่าสงวนแห่งชาติภูพานในเขตอำเภอสามชัย เกิดปัญหาบุกรุกตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่บุกรุกรวม 16,000 ไร่ ทั้งหมดเริ่มต้นในเขตตำบลสำราญ แบ่งออกเป็น 7 จุด
โดยจุดที่ 1. เริ่มจากด้านหลังโรงเรียนบ้านด่านเม็ก รวมพื้นที่ 2,000 ไร่ มีผู้ใหญ่บ้านและครูศูนย์เด็ก เป็นผู้บุกรุกรายใหญ่ จุดที่ 2. ด้านตะวันออกของบ้านด่านเม็ก เนื้อที่ 1,000 ไร่ มีผู้อำนวยการโรงเรียนวังสามหมอ และมีอดีต ส.ส.พรรคการเมืองใหญ่เป็นผู้บุกรุกรายใหญ่
จุดที่ 3. ทางออกบ้านด่านเม็ก ทั้งฝั่งซ้ายและขวา เนื้อที่ 2,500 ไร่ มีกลุ่มทุนมาจาก จ.อุดรธานี จ.ขอนแก่น และ จ.สกลนคร เป็นเจ้าใหญ่ จุดที่ 4. พื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ เนื้อที่ 1,000 ไร่ มีชาวบ้านและข้าราชการครูของวิทยาลัยการอาชีพในพื้นที่เป็นเจ้าใหญ่
จุดที่ 5. อยู่ด้านหลังหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.3 ภูพาน ห่างกัน 500 เมตร ถูกบุกรุก 5,000 ไร่ พื้นที่แห่งนี้ มีนายเกรียงไกร ภูคงสด อดีตนายก อบต.สำราญ บุกรุกด้วยการจับจอง จากนั้นทำการแบ่งขายพื้นที่ให้กับคนนอกพื้นที่ อ.สามชัย ประกอบด้วย นายทุนจาก จ.ระยอง จ.ขอนแก่น โดยอ้างสิทธิ์ทับซ้อนต่อการระวางระหว่าง ป่าไม้ และ ส.ป.ก. จุดที่ 6. บริเวณป่าลำพันชาติ อีก 3,500 ไร่ ผู้บุกรุก นายเกรียงไกร ภูคงสด อดีตนายก อบจ.สำราญ และจุดที่ 7. ลึกเข้าไปต่อจากป่าลำพันชาติ อีก 1,000 ไร่ เป็นกลุ่มผู้ใหญ่บ้าน และนายเกรียงไกร ภูคงสด อดีตนายก อบต.สำราญ
นายอำเภอสามชัย ระบุอีกว่า ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ภูพาน นอกจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลลักลอบตัดไม้ ก็ยังเกิดจากแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ไม่ชัดเจน เพราะหลังจากที่ทางอำเภอได้เปิดประเด็นปัญหาในพื้นที่ ถึงปัจจุบันพื้นที่การบุกรุก ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 ขอนแก่น ก็ยังไม่สามารถสรุปปัญหา การตรวจจับ
รวมถึงการคัดแยกป่าไม้จาก เขต ส.ป.ก. ได้ เพราะแผนที่ ส.ป.ก. ขณะนี้ เป็นแผนที่คนละระวางของกรมป่าไม้ จึงทำให้เป็นเงื่อนไขให้เกษตรกร คนจน ที่เกี่ยวข้องเข้าทำการบุกรุกจนเกิดการลุกลามใหญ่โต นำนายทุน นายห้างใหญ่ เข้ามาซื้อที่ต่อจากชาวบ้าน
ด้าน นายภุชงค์ โพธิกุฏสัย รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่า จังหวัดไม่เกรงกลัวอิทธิพลอย่างแน่นอน และการบวชป่านั่นคือ การแสดงสัญลักษณ์ เพื่อเปิดปฏิบัติการอาชาพิทักษ์ไพร อย่างเป็นทางการ ที่จะเริ่มต้นด้วยการขอความร่วมมือ ก่อนที่จะเข้าทำการกดดันชาวบ้าน นายทุน เพื่อป้องกันไม่ให้เข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งนับจากนี้จะมีการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่เข้าบุกรุกรวมถึงนายทุน เพื่อทำการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า นับจากนี้จะเป็นโอกาสให้ผู้บุกรุกออกมาแสดงตัว ทั้งนี้ แนวทางการป้องกันรักษาป่าโดยกำลังผสมจะเกิดขึ้นอย่างเข้มข้น จึงขอให้ผู้บุกรุกหยุดทำลายทรัพยากรป่าไม้ เพราะนอกจากจะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติยังทำให้เกิดบาปที่จะติดอยู่ในใจตลอดไป