กาฬสินธุ์ - กองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ 3 ฝ่าย เปิดยุทธการ “อาชาพิทักษ์ป่า” ทวงคืนผืนป่าภูพาน ล่าสุด พบบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพานถึง 16,000 ไร่ เดินหน้าปักหลักเขตแล้ว 1,600 ไร่ พร้อมจัดทำบัญชีเช็กบิลกลุ่มนายทุน นักการเมือง และชาวบ้าน
วันนี้ (10 ก.ค.) พล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.อ.ฉกาจพงษ์ หงษ์ทอง รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 ที่ปรึกษาประจำกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ท.นิสิต สมานมิตร ผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 14 นำกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.3 (ภูพาน) เจ้าหน้าที่สำนักงานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาฬสินธุ์ และ ตชด.23 กว่า 100 นาย
เข้าปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าภูพาน โดยปักป้าย และติดป้ายแสดงจุดเตรียมขับไล่ผู้ลักลอบปลูกยางพาราตามคำสั่งคดีบุกรุกป่าที่สิ้นสุดคดีแล้ว ตามนโยบายของ คสช. ภายใต้แผนยุทธการ “อาชาพิทักษ์ป่า” ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติภูพาน บริเวณตำบลสำราญ อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งถูกนายทุนบุกรุกกว่า 1 หมื่นไร่
โดยปฏิบัติการครั้งนี้ได้สรุปพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพาน เฉพาะเขตอำเภอสามชัย มีการบุกรุกถึง 16,000 ไร่ เป็นกลุ่มนายทุน นักการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปถึงระดับสูง และนายทุนจาก จ.กาฬสินธุ์ จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร ที่ผ่านมา มีการใช้อิทธิพลเข้าไปบุกรุกปักหลักเขต หลอกซื้อขายสิทธิกันแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนขยายรุกป่ากินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
พ.อ.ฉกาจพงษ์ หงษ์ทอง รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 ที่ปรึกษาประจำกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติภูพาน เบื้องต้นภายใต้ยุทธการ อาชาพิทักษ์ไพร ของกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ขั้นที่ 1 ได้ปักป้าย และติดป้ายแสดงจุดขับไล่การลักลอบปลูกยางพารา ตามคำสั่งคดีบุกรุกป่าที่สิ้นสุดคดีแล้ว โดยศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ตัดสินว่ามีความผิดฐานบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติภูพาน 7 คดี 7 แปลง รวมพื้นที่ 1,624 ไร่ มีการลักลอบปลูกยางพารา มันสำปะหลัง สร้างกระท่อมเชิงเขา ซึ่งกองกำลังผสมจะรื้อถอน เมื่อแผนทวงคืนสิ้นสุด จะทวงคืนผืนป่าจากนายทุนนักการเมืองต่อไป