กาฬสินธุ์ - ทหาร ฝ่ายปกครองตรวจสอบป่าภูพานโดยละเอียด แฉนักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการ นักธุรกิจ และชาวบ้านฮุบป่า ผู้บุกรุกเหิมถึงขั้นตั้งหมู่บ้านและวัดหลอกซื้อขายที่ดิน ยอดเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท ทหารดีเดย์นำกำลังทวงคืน 9-11 ก.ค.นี้
จากกรณีพบนายทุนนอกพื้นที่และในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ตลอดจนชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาภูพาน บ้านด่านเม็ก หมู่ 12 ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ โดยตัดโค่นต้นไม้และจับจองพื้นที่ปลูกยางพารา พืชต่างๆ ทำให้พื้นที่ป่าเสียหายมากกว่า 1 หมื่นไร่นั้น
วันนี้ (8 ก.ค.) พล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.อ.ฉกาจพงษ์ หงษ์ทอง รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอสามชัย พ.ท.นิสิต สมานมิตร ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 14 นำกำลังทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.3 (ภูพาน) และตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาภูพาน บริเวณบ้านด่านเม็ก หมู่ 12 ทุกตารางนิ้วเพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น
จากการตรวจสอบนอกจากจะพบกลุ่มนายทุนและชาวบ้านเข้าไปจับจองพื้นที่ปลูกยางพาราและมันสำปะหลังแล้ว ยังถึงขั้นตั้งหมู่บ้านในเขตป่าสงวนมาตั้งแต่ปี 2542 คือ บ้านด่านเม็ก วัด 1 แห่ง และสำนักสงฆ์อีก 1 แห่ง ล้วนอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนเช่นกัน โดยกลุ่มนายทุนได้ปักเขตหลอกขายสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 แต่ไม่มีการออก ส.ป.ก. 4-01 แต่อย่างใด
นายกนกกล่าวว่า การบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบริเวณบ้านด่านเม็กส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพล ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น นักธุรกิจ และข้าราชการทั้งใน จ.อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร และกาฬสินธุ์ จับจอง หมุนเวียนซื้อขายสิทธิกัน ทั้งชาวบ้านขายให้นายทุน และนายทุนหลอกขายสิทธิต่อ
บางพื้นที่เตรียมทำเป็นรีสอร์ตทั้งที่ไม่มีเอกสารสิทธิ โดยเฉพาะรายล่าสุดข้าราชการซี 9 ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง เข้าไปบุกรุกป่ากลางภูเขา มีเนื้อที่มากกว่า 40 ไร่ มีการระเบิดหินสร้างถนนเข้าไปโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
นายกนกกล่าวว่า ปัญหาเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2542 นับตั้งแต่ตั้งหมู่บ้านด่านเม็ก จากนั้นชาวบ้านเริ่มขยายแนวบุกรุกแผ้วถาง สร้างวัดและสำนักสงฆ์ จนนายทุนเริ่มมองเห็นประโยชน์ เข้ามาจัดสรรปันส่วนหลอก และแอบอ้างขายสิทธิกันถึงปัจจุบัน เนื้อที่ป่านับหมื่นไร่ เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้บุกรุกป่าหลายรายเนื้อที่หลายร้อยไร่ แต่ยังบุกรุกต่อเนื่อง เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ทั้งขาดการติดตามคดี การจำแนกพื้นที่บุกรุกใหม่ ส่วนไหนจับแล้วและยังไม่จับไม่มีความชัดเจน ทำให้กลุ่มนายทุนและชาวบ้านไม่เกรงกลัว ยังคงบุกรุกต่อเนื่อง
ด้าน พ.อ.ฉกาจพงษ์ หงษ์ทอง รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 กล่าวว่า นอกจากพบการบุกรุกพื้นที่ป่านับหมื่นไร่แล้ว ยังมีการซื้อขายสิทธิ โดยแอบอ้างว่ามี ส.ป.ก. 4-01 ซึ่งจริงๆแล้วพื้นที่นี้ไม่มีเอกสารสิทธิเพราะเป็นเขตป่าสงวน สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายจำกัดพื้นที่ ไม่ให้ขยายวงกว้างกว่าเดิม พร้อมทำความเข้าใจ ชี้แจงชาวบ้านห้ามบุกรุกเพิ่ม เร่งทวงคืนพื้นที่ป่าทั้งหมด หากยังฝ่าฝืนจะใช้กฎหมายบังคับ ส่วนกลุ่มนายทุนจะเร่งติดตามตัวต่อไป ทั้งนี้ มีรายงานว่ากองกำลังรักษาความสงบ โดยกำลังผสม 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง และตำรวจ จะนำกำลังเข้าทวงคืนผืนป่าวันที่ 9-11 กรกฎาคมนี้
