ผู้ว่าฯ เลยนำกำลังรุกทวงคืนผืนป่าต่อเนื่อง

เลย - พ่อเมืองเลย ผนึกกำลังทหาร ตำรวจ ปฏิบัติการ “ทวงคืนผืนป่า” จากผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในเขตอำเภอด่านซ้าย พบเจ้าของที่ปลูกยางพาราเกินกว่าเอกสารใบจอง ส.ค.2 จาก 20 ไร่ เป็น 97 ไร่ สุดท้ายยอมคืนพื้นที่ป่าให้ทางราชการ

วันนี้ (24 ก.ย.) นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) จังหวัดเลย สนธิกำลังหน่วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และบุคลากรหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในจังหวัดเลยกว่า 60 นาย เดินทางไปที่ “ไร่ลุงเท่ง” ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านเดิ่น ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย หลังมีผู้ร้องเรียนว่าบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และปลูกยางพาราจำนวนมาก

เมื่อคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดเลยเดินทางไปถึงได้พบกับนางสุวรรณี วังคีรี รับราชการเป็นพยาบาล สังกัดโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย เจ้าของไร่ลุงเท่ง รอแสดงเอกสารใบจอง หรือ ส.ค.2 ของกรมที่ดินว่า ตนได้รับพื้นที่ดังกล่าวเป็นมรดกตกทอดมาจากบุพการี มีการบันทึกเอกสารว่าเป็นเนื้อที่ 20 ไร่ แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้และที่ดินเคยลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีการครอบครองและปลูกยางพาราประมาณ 97 ไร่ ซึ่งเกินกว่าหลักฐานที่นำมาแสดง

ผลการตรวจสอบจะต้องขอคืนที่ดินตามกฎหมายและนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เนื่องจากบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเกินกว่าที่มีเอกสารครอบครองอยู่ โดยนางสุวรรณี เจ้าของที่ดิน ได้แจ้งความจำนงต่อคณะผู้ว่าราชการจังหวัดเลยว่า การบุกรุกที่ดินป่าสงวนเกิดจากความเข้าใจผิดและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอให้ทางราชการตรวจสอบข้อมูลและรังวัดพื้นที่ตามระบบสากล ตนพร้อมจะคืนที่ดินส่วนที่เกินกว่าที่ปรากฏในเอกสาร ส.ค.2 โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า การที่นางสุวรรณียอมรับว่าบุกรุกที่ดินป่าสงวน และยินยอมคืนพื้นที่ส่วนเกินจากเอกสารใบ ส.ค.2 ถือเป็นการกระทำที่ถูกต้องเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้บุกรุกป่าพื้นที่อื่นว่า หากรู้ว่าตนเองกระทำผิดขอให้คืนพื้นที่ให้ทางราชการ เพื่อร่วมกันรักษาสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศชาติโดยรวมต่อไป

ยืนยันว่าจังหวัดเลยจะดำเนินการมาตรการ “ทวงคืนผืนป่า” โดยสั่งการให้ทุกอำเภอจัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวน อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พร้อมทั้งติดตามผลการบุกรุกทุกเดือน หากพบการกระทำผิดให้ตรวจยึด จับกุม และดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดทันที คาดว่าในพื้นที่จังหวัดเลยยังมีผู้บุกรุกพื้นที่ป่าอีกมาก ซึ่งจะตรวจสอบและดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป