พระนครศรีอยุธยา - ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่อยุธยา ตรวจสอบที่เกิดเหตุ 3 เด็กชาวลาวที่ปีนตึกหนีออกมารขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หลังถูกนายจ้างกักขัง ทำงานไม่ได้เงินเดือน พร้อมทั้งสอบเจ้าของร้านผลิตทองรูปพรรณที่เป็นนายจ้าง และแจ้งข้อหาค้ามนุษย์ และคาดโทษตำรวจอยุธยา หากมีส่วนร่วมค้ามนุษย์ให้ออกราชการทันที
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.เสนา ได้ทำการสอบสวน นางสุมณธณี โอภาสสุวรรณ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านผลิตทองรูปพรรณ เลขที่ 69/222-3 ม.8 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างละเอียดถึงวิธีการรับคนงานเข้ามาทำ ลักษณะงานที่ทำ เวลาทำงาน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาค้ามนุษย์โดยบังคับใช้แรงงานเด็ก
หลังจากเมื่อเช้าวันนี้ พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิโรจน์ ข้าวบ่อ ผกก.สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบภายในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ดังกล่าว ซึ่งชั้นบนเปิดเป็นร้านทำทองรูปพรรณ หลังจากมีแรงงานต่างด้าวชาวลาว 3 คน เป็นเด็กชาย 2 คน และหญิง 1 คน อายุ 14-15 ปี ได้ปีนตึกหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า ถูกกังขัง ใช้แรงงานหนัก และไม่ได้เงินเดือน
หลังการสอบสวน พล.ต.ท.อำนวย ได้เดินทางไปตรวจสอบที่อาคารพาณิชย์สถานที่ผลิตทองรูปพรรณจุดที่เด็กชาวลาวให้การว่า ได้ปีนตึกหนีออกมา โดยได้ทำการบันทึกภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งขอตรวจสอบอุปกรณ์บันทึกภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณโดยรอบเพื่อตรวจสอบว่า ที่ผ่านมามีการเดินเข้าออกของเด็กบ้างหรือไม่ เพื่อจะนำไปประกอบกับคำให้การของเด็กที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนเอาไว้แล้วว่าตรงกับคำให้การของเด็กหรือไม่
พล.ต.ท.อำนวย เปิดเผยภายหลังว่า การกระทำความผิดค้ามนุษย์เป็นคำสั่งที่ คสช.เร่งรัดให้ดำเนินการป้องกันจับกุมไม่ให้กระทำผิด เพราะประเทศไทยถูกจัดอันดับที่มีการกระทำการค้ามนุษย์มาก ภายหลัง คสช.ได้มีการให้จดทะเบียนแรงงาน จึงทำให้มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาจดทะเบียนจำนวนมาก และมีอิสระในการที่จะเลือกสถานที่ทำงาน จึงมีสถานประกอบการมีการกักขังหน่วงเหนี่ยวแรงงานเอาไว้ให้ทำงานของตน ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 1 หากพบว่ามีการกระทำความผิดค้ามนุษย์โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้เห็นมีประโยชน์ร่วมด้วย จะต้องเอากันให้ถึงตายให้ออกราชการ หรือหากไม่มีความสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ให้ไปอยู่ที่อื่น
