แพร่ - ภาคประชาสังคมรุมถล่ม คนโตเมืองแพร่เชิญตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะประชุมร่วมกรรมการบริหารจัดการขยะ แต่กลับสั่งปิดไมค์ห้ามพูด จนต้องเดินออกจากห้องประชุมกลางคัน หมดโอกาสสะท้อนปัญหาชุมชน
วันนี้ (6 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เชิญคณะกรรมการบริหารจัดการขยะมูลฝอยจังหวัด และผู้ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะ เข้าร่วมประชุม 68 คน ที่ห้องประชุมเวียงโกศัย ศาลากลางจังหวัดแพร่ ช่วงบ่ายถึงเย็นวานนี้ (5 พ.ย.)
นายชูเกียรติ พงษ์ศิริวรรณ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ ที่เข้าร่วมประชุมชี้แจงว่า ทาง คสช.เห็นว่าแพร่เป็นจังหวัดที่มีปัญหาขยะสะสมมากเป็นอันดับ 8 ของประเทศ อยู่ในกลุ่มปัญหาขยะกลุ่มที่ 2 ที่มีปัญหาขยะอยู่ในระดับปานกลาง ให้เร่งแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี จึงได้กำหนดให้มีการสร้างแหล่งกำจัดขยะเป็น 3 โซน คือ โซนเหนือที่ อ.สอง โซนกลางที่ อ.เมือง และโซนใต้ที่ อ.ลอง แต่กรณีบ่อขยะ อ.เมือง ที่มีการเตรียมสร้างแหล่งกำจัดขยะใหม่ในบริเวณที่ทิ้งขยะเดิม หมู่ 8 ต.เหมืองหม้อ ห่างจากชุมชนบ้านร่องฟอง ต.ร่องฟอง อ.เมือง เพียง 1 กิโลเมตร ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากคนในชุมชน
ซึ่งขณะที่กำลังมีการชี้แจงข้อมูลและผลกระทบอยู่นั้น นายวีรวัฒน์ รอดทุกข์ หัวหน้ากลุ่มรักตำบลร่องฟอง ยกมือขอให้ข้อมูลผลกระทบของหมู่บ้านชุมชนของตนเองเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันในที่ประชุม แต่ปรากฏว่านายวีรวัฒน์ถูกสั่งให้หยุดพูด และห้ามไม่ให้ชี้แจงเหตุผล แม้ว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบก็ตาม จากนั้นได้ดำเนินการประชุมต่อไป ทำให้นายวีรวัฒน์ต้องออกจากที่ประชุมไป โดยไม่มีโอกาสได้ชี้แจงข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ชุมชน
ด้านนางประชิด กาทองทุ่ง นายก อบต.ร่องฟอง ได้ขึ้นพูดในที่ประชุมว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากคณะกรรมการได้เชิญแกนนำชาวบ้านมาประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่กลับไม่ให้แสดงความคิดเห็น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก ตนจะกลับไปชี้แจงกับชาวบ้านอย่างไร
ซึ่งนายศักดิ์ยืนยันว่าให้พูดไม่ได้ เพราะไม่ใช่คณะกรรมการแก้ปัญหาขยะ ถ้าให้พูดไปจะเกิดความไม่เป็นธรรม เพราะชาวบ้านรายอื่นๆ ไม่ได้เข้ามาประชุมด้วย
ขณะที่นายวีรวัฒน์กล่าวภายหลังออกจากห้องประชุมว่า รู้สึกผิดหวังกับการแก้ปัญหาขยะของจังหวัด ชุมชนร่องฟองและชุมชนใกล้เคียงออกมาต่อต้านบ่อขยะ ทั้งบ่อเก่าและบ่อใหม่ จึงได้มีการจัดประชุมให้หาทางออกร่วมกัน และได้เชิญเข้าร่วมประชุมอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อจะพูดกลับไม่ได้พูด ไม่ให้ออกความเห็น แล้วจะเชิญมาทำไม
นายภาคิน ชมพูพันธ์ ธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ ซึ่งนั่งอยู่ในที่ประชุมด้วย กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าระบบราชการยังไม่เอื้อให้แก่ประชาชน แม้ในการแสดงความคิดเห็นยังถูกจำกัด ดังนั้นเชื่อว่าการแก้ปัญหาขยะในจังหวัดแพร่คงจะบานปลายออกไป ในส่วนของกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเห็นว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาจากการประท้วงของชาวบ้านร่องฟอง แต่เชิญชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาพูดน้อยไปด้วยซ้ำ ทั้งยังจำกัดไม่ให้พูด คิดว่าน่าห่วงเรื่องบริหารจัดการในยุคเผด็จการอย่างมาก
นายอำนวย พลหล้า ผู้ประสานงานศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง จ.แพร่ กล่าวว่า ถ้าการประชุมครั้งนี้ไม่ต้องการให้ชาวบ้านไปออกความคิดเห็น ก็ไม่ควรเชิญแกนนำผู้ได้รับผลกระทบเข้าไปในที่ประชุม แต่เท่าที่ดูหลักฐาน นายวีรวัฒน์ได้รับเชิญจากนายศักดิ์ ตามบัญชีแนบท้ายลำดับที่ 68 และยังมีนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารจัดการขยะมูลฝอยจังหวัดแพร่ได้รับเชิญ และได้โอกาสแสดงความคิดเห็น กรณีอย่างนี้ถือว่าเป็นการกีดกันชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบไม่ให้แสดงความคิดเห็น
“ถ้ามองภาพรวมแล้วอาจเป็นคำสั่งจาก คสช.หรือไม่ เรื่องนี้น่าคิดมากเพราะมีการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ถือว่าจังหวัดกำลังเดินเข้าสู่ยุคมืด ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองคงอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ อาจต้องทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะมารับตำแหน่งใหม่ ยังไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรในจังหวัดก็เป็นได้”