แพร่ - ชาวบ้านในชุมชนเมืองแพร่รวมตัวติดป้ายข้อความคัดค้านนโยบาย คสช.ตั้งโรงงานกำจัดขยะ-โรงไฟฟ้าขยะใกล้ชุมชน ผวาผลกระทบสิ่งแวดล้อม แถมหวั่นพอขยะขาดจะขนถ่านหินมาผลิตไฟฟ้าแทน พร้อมตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวเป็นทางการ นัดหารือครั้งแรก 26 ตุลาฯ นี้
วันนี้ (24 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง คสช.มีนโยบายให้จังหวัดแพร่เร่งแก้ปัญหาขยะสะสมที่มีมากเป็นอันดับ 6 ของประเทศให้อยู่ในสภาวะควบคุมได้ ซึ่งจังหวัด โดยกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีแผนในการสร้างโรงงานกำจัดขยะ 2 แห่งตามการเร่งรัดของ คสช. อยู่ใน อ.เมือง 1 แห่ง และที่ อ.สอง 1 แห่ง ซึ่งโรงขยะใน อ.เมือง จะตั้งขึ้นที่บ่อขยะเก่า ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านแล้ว
ล่าสุดชาวบ้านในหมู่ 1, 2 และหมู่ 3 ต.ร่องฟอง อ.เมืองแพร่ ได้ช่วยกันติดป้ายข้อความต่อต้านโรงงานกำจัดขยะ และบ่อขยะ ทั้งหน้าหมู่บ้าน และตามบ้านเรือนทุกหลังคา พร้อมกับตั้งกลุ่มคนรักร่องฟองขึ้นมาเคลื่อนไหว โดยนัดหมายประชุมหารือกันชุมชนในวันอาทิตย์ที่ 26 ต.ค.นี้ และอาจเข้าชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ในไม่ช้านี้
นายจีรวัฒน์ รอดทุกข์ แกนนำกลุ่มคนรักร่องฟอง หมู่ที่ 3 ต.ร่องฟอง กล่าวว่า ชาวบ้านจะรวมตัวหารือกันในวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งถ้าได้ข้อสรุปก็จะทำหนังสือยื่นต่อ คสช. และศูนย์ดำรงธรรม ที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ เพื่อเรียกร้องให้ยุติโครงการสร้างบ่อขยะและโรงงานกำจัดขยะดังกล่าว
“กองขยะเดิมที่มีมากที่สุดอยู่ที่หมู่ 8 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ ซึ่งเป็นที่ทิ้งขยะของเอกชนที่รับขยะจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ หลายแห่ง ซึ่งถูกชาวบ้านต่อต้านมาอย่างต่อเนื่องเพราะอยู่ใกล้ชุมชน ที่สำคัญส่งผลถึงระบบน้ำใต้ดินทำให้บ่อน้ำตื้นของประชาชนในที่ต่ำคือ ต.ร่องฟอง อ.เมืองแพร่ มีปัญหากลิ่มเหม็นขยะแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไขใดๆ ทำให้ชาวบ้านไม่เห็นด้วยที่จะสร้างโรงงานกำจัดขยะขึ้นมาอีก”
นอกจากนั้น ชาวบ้านร่องฟองยังมีข้อคิดเห็นว่า การกำจัดขยะ ซึ่งในจังหวัดแพร่มีไม่มากนัก อปท.ทุกแห่งก็สามารถจัดการได้ ซึ่งถ้าสร้างโรงงานกำจัดขยะขนาดใหญ่แล้วผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยจะเป็นปัญหาในอนาคตถ้าขยะไม่เพียงพออาจนำถ่านหินเข้ามาทดแทนได้ จึงขอให้ทางราชการยุติโครงการดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่อขยะและโรงงานขยะแห่งใหม่อยู่ระหว่าง 3 ตำบล คือ ต.น้ำชำ ต.เหมืองหม้อ และ ต.ร่องฟอง ที่ทางราชการให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการ ล่าสุดทางบริษัทต้องชะลอการเข้าพื้นที่ให้ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การทำประชาพิจารณ์แล้ว เนื่องจากความขัดแย้งกำลังบานปลายหนัก