xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ประกอบการจี้ กนอ.มาบตาพุด ล้างระบบการกำจัดขยะอันตราย-รีไซเคิล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการจี้ กนอ.มาบตาพุด ล้างระบบการกำจัดขยะอันตราย-รีไซเคิล ให้เป็นมาตรฐานที่ชัดเจน หากใครทำผิดกฎระเบียบกติกาก็ให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด เพราะที่ผ่านมา ปล่อยปละละเลย หวั่นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสภาพแวดล้อม

นายเกียรติขจร วรรณศรี กรรมการผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด เกียรติขจร รีไซเคิล กล่าวถึงปัญหาการกำจัดขยะอันตราย และขยะรีไซลเคิล จากโรงงานอุตสาหกรรมนั้นขณะนี้มีปัญหา เนื่องจากไม่มีความชัดเจนว่าสิ่งไหนเป็นขยะอันตรายที่ต้องกำจัด และสิ่งไหนเป็นขยะรีไซเคิล ที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ เพราะที่ผ่านมา หน่วยงานที่รับผิดชอบยังปล่อยปละละเลย ทำให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนการจัดการ

ในความเป็นจริง ทุกโรงงานอุตสาหกรรมทราบดีว่า ขยะตัวไหนเป็นขยะอันตรายต้องดำเนินการจำกัดอย่างถูกวิธี คือ ต้องส่งไปกำจัดที่โรงงานกำจัดขยะอันตรายเท่านั้น และตัวไหนไม่อันตรายที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (รีไซเคิล)

ขยะที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ก็จะมีการนำมาประมูล เช่น กรณีถุงกระดาษที่ใส่แป้ง เมื่อนำวัตถุดิบออกแล้ว ก็ต้องมีเศษวัสดุหลงเหลืออยู่ในถุง จากนั้นต้องมาทำความสะอาดเพื่อนำวัสดุที่เหลือออกจากถุงให้หมด ก่อนจะนำถุงกระดาษไปรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ แต่ถ้าโรงงานแจงว่าวัสดุที่อยู่ในถุงกระดาษเป็นขยะอันตรายก็ไม่ควรให้มีการประมูลอย่างเด็ดขาด โดยต้องนำไปเผาหรือทำลายเพื่อป้องกันมลพิษที่จะเกิดขึ้น เพราะเป็นขยะอันตรายโรงงานจะเสียค่าใช้จ่ายสูงเมื่อนำไปกำจัด แต่หากระบุเป็นขยะรีไซเคิลทางโรงงานยังได้เงินจากการประมูลขยะด้วย

“ปัญหาที่เกิดขึ้นทางโรงงานทุกแห่งทราบดี เพราะก่อนจะสร้างโรงงานอุตสาหกรรมนั้น ต้องแจ้งหน่วยงานว่ามีขยะประเภทไหนแบบไหนบ้าง แต่ที่ผ่านมา โรงงานมีการหลบเลี่ยง เพราะเมื่อนำไปกำจัดโดยวิธีการเผาที่โรงปูนซิเมนต์ไทย (โรงปูน) นั้น ค่าใช้จ่ายแพงมาก ดังนั้น ถุงกระดาษที่ใส่ฝุ่นแป้ง หรือถุงบิ๊กแบ็กที่ใส่สารเคมีก็ถือว่าเป็นขยะอันตราย แต่ปัจจุบันมีการหลบเลี่ยงดังกล่าว

ดังนั้น หากจะดำเนินการอย่างจริงจังต้องแก้ไขทั่วประเทศ เพราะที่ผ่านมา การตรวจสอบหรืออนุมัติจากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบไม่เข้มงวดเท่าที่ควร เช่น มีถุงบิ๊กแบ็ก 10,000 ใบ ต้องนำไปกำจัด หรือทำลายทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงมีการทำลายเพียง 100-200 ใบ แต่ที่เหลือก็นำไปขาย และนำกลับมาใช้ใหม่”

ชี้ กนอ.ควรตรวจสอบขยะที่ออกจากรง.


นายเกียรติขจร กล่าวว่า สำหรับบริษัทฯ ต่างๆ ที่เข้าร่วมประมูล หรือได้รับสัมปทานจำกัดขยะในนิคมฯ จะต้องได้รับการตรวจสอบ หรือได้รับความเห็นชอบจากการนิคมฯ

จากนั้นก็ให้บริษัทฯ เหล่านั้นไปประมูลสินค้าที่จะนำไปกำจัดกันเอง เพราะทุกบริษัทผ่านความเห็นชอบจาก กนอ.แล้ว

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยากที่จะแก้ไขให้เกิดเป็นรูปธรรม แต่ก็ต้องผลักดัน แม้จะใช้เวลานานหลายปีก็ตาม ทุกๆ โรงงานควรจะตื่นตัวว่าโรงงานของใครมีขยะอันตรายอะไรบ้างและชนิดไหนเป็นขยะรีไซเคิล เพื่อแยกประเภทให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะระบุเป็นขยะรีไซเคิล เพราะเสียค่าใช้จ่ายน้อย ทั้งๆ ที่อาจจะเป็นขยะอันตรายเพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย หากนำขยะอันตรายไปกำจัดจริงจะเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว

นอกจากนั้น กรณีบริษัทฯ กำจัดขยะนำขยะออกมาแล้วแต่ไม่มีเครื่องจักรที่จะรับกำจัดอย่างสมบูรณ์แบบ เช่น เตาเผา ดังนั้น ควรจะต้องตรวจสอบบริษัทต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หรือผลกระทบอีกต่อไป

ที่ผ่านมา โรงงานกำจัดขยะในพื้นที่มาบตาพุด มีเอกสารหลักฐานไม่ตรงต่อที่แจ้งไว้ เช่น ขอดำเนินการกำจัดขยะในพื้นที่จังหวัดระยอง แต่กลับนำไปกำจัดในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งไม่ถูกต้อง

นอกจากนั้น ยังแจ้งว่าเป็นโรงหลอมพลาสติก แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีโรงหลอม ทางเจ้าหน้าที่เคยไปตรวจสอบหรือเปล่า ซึ่งปัญหาต่างๆ นั้นควรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง หรือล้างระบบกันเสียที

ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ควรตรวจสอบบริษัทกำจัดขยะทุกๆ แห่งในการนิคมฯมาบตาพุด ว่ามีการดำเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามระเบียบที่กำหนดหรือไม่ พร้อมร่วมมือกับหลายๆ ฝ่าย เช่น อุตสาหกรรมจังหวัด หากโรงงาน หรือบริษัทไหนผิดก็ดำเนินการห้าม หรือเข้าร่วมประมูลขยะต่างๆ อย่างเด็ดขาด

กำลังโหลดความคิดเห็น