แพร่ - ประชุมรับมอบนโยบาย มท.1 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมืองแพร่ป่วน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแทบทั้งจังหวัดลุกหนีเกลี้ยงห้อง หลังนั่งฟัง “อนุพงษ์” ได้เพียง 30 นาที
ในการประชุมรับมอบนโยบายผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่สั่งการให้ข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยทุกระดับร่วมรับฟัง เมื่อบ่ายวานนี้ (9 ต.ค.) โดยจังหวัดแพร่ได้จัดให้ข้าราชการระดับสูง และผู้บริหาร อปท.เข้าฟังที่ห้องประชุมจดหมายเหตุ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดแพร่ ส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชุมที่ศาลาประชาคม และห้องประชุมอำเภอเมือง ซึ่งแรกเริ่มมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั้งจังหวัดเข้าร่วมประชุมเต็มห้องทุกห้อง
แต่หลังจาก พล.อ.อนุพงษ์แถลงนโยบายแนวทางการทำงานได้เพียง 30 นาที กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่นั่งในศาลาประชาคมต่างพากันเดินออก ไม่รอรับฟังการแถลงนโยบายดังกล่าว โดยมองว่าไม่มีสาระควรแก่การนั่งฟัง เหลือเพียงห้องประชุมจดหมายเหตุที่มีนายธนากร อึ้งจิตรไพศาล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นั่งเป็นประธานในที่ประชุม และข้าราชการเข้าร่วมฟังจนจบการแถลงนโยบาย
โดย พล.อ.อนุพงษ์กล่าวถึงนโยบายการทำงานว่า ปัญหาใหญ่ๆ ที่ประเทศไทยต้องร่วมกันทำงาน คือ ราคาพืชผลที่ตกต่ำ มีผลกระทบหลายด้าน รวมทั้งสถานการณ์ในต่างประเทศ การเปิดประชาคมอาเซียน ที่ต้องช่วยกันทำให้ประเทศไทยมีความพร้อมไปสู่ประชาคมอาเซียน
และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยคือ ปัญหาคน ที่มีความคิดเห็นขัดแย้งรุนแรง ความจริงความเห็นต่างกันไม่ใช่ปัญหา จากนี้ไปข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยไม่ควรทำงานนอกอำนาจหน้าที่ เช่น การเข้าไปมีผลประโยชน์ส่วนตน ซึ่งจะมีการประเมินการทำงานโดยปลัดกระทรวง
หน้าที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ที่ท่านทรงงานหนัก และมีน้ำพระทัยบริสุทธิ์ อยากให้ประชาชนทุกคนมีความสุข จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ คนทุกชนชั้นเป็นพสกนิกรของพระองค์ ข้าราชการควรน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่ประชาชน และถ้ามีการบิดเบือนข่าวสารเกี่ยวกับพระองค์ ต้องช่วยกันทำความเข้าใจต่อประชาชน
เรื่องที่ 2 ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยต้องทำตัวเป็นนักบริหารบ้านเมืองที่ดี การทำงานต้องโปร่งใส ข้าราชการทุกระดับถ้ายังคิดเรื่องทุจริตคงอยู่ไม่ได้ และต้องนึกถึงการให้บริการประชาชนไม่ใช่เป็นนายประชาชน ศูนย์ดำรงธรรมที่ผ่านมาทำได้ดีทุกจังหวัด ให้มีการคงอยู่ และดำเนินการต่อไป เพื่อมุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชน บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน สร้างความเป็นธรรมให้ได้ จนเกิดความปรองดองสมานฉันท์
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ร่วมกันมาหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ หลายศาสนาแต่อยู่กันได้ เรายกระดับมานานแล้ว ผิดกับบางประเทศยังไม่สามารถรวมเชื้อชาติต่างๆเข้าด้วยกันได้ ความแตกแยกที่ผ่านมาเกิดจากคนที่คิดปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง สร้างกระแสให้แตกแยกในบ้านเมือง ข้าราชการมหาดไทยต้องไม่เข้าไปมีส่วนร่วมอีกต่อไป ถ้าใครคิดจะทำขอให้คิดใหม่ สร้างความสงบให้แก่ชาติเพื่อร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ที่คาดว่าราว 8 เดือนก็จะเสร็จ
นอกจากนั้น เรื่องคุณธรรม 12 ประการต้องนำมาใช้ในข้าราชการมหาดไทย สิ่งที่ต้องช่วยกันแก้คือ 1. แก้ปัญหาความไม่สงบ 2. เรื่องการค้ามนุษย์ 3. เรื่องยาเสพติด มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องต้องหยุด 4. เรื่องภัยธรรมชาติ ซึ่งมีเกิดขึ้นในหลายประเทศ แต่ในประเทศไทยอาจเกิดจากการบริหารจัดการที่ไม่ดีพอ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งสลับกันไป ปัจจุบันมีเรื่องอากาศหนาวเข้ามาด้วย ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าก็เป็นอีกเรื่อง ที่ส่งผลให้ภัยธรรมชาติรุนแรงยิ่งขึ้น 5. เศรษฐกิจ ต้องลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ปัญหาหนี้นอกระบบสร้างปัญหามาก ปัญหาพืชผลเกษตรที่ปลูกเกินความต้องการของตลาด
นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ประธานในที่ประชุมจังหวัดแพร่ กล่าวว่า จากนโยบายทั้ง 6 เรื่องพูดได้ชัดเจน เข้าใจง่าย ซึ่งได้เชิญผู้บริหารท้องถิ่น ปกครองท้องที่มารับฟังด้วยตัวเอง คิดว่าทุกคนจะเเข้าใจด้วยตัวเอง และนำไปปฏิบัติได้เป็นรูปธรรม สำหรับนโยบายจังหวัดแพร่ได้เตรียมทำไปบางส่วนก็หนีไม่พ้นภัยธรรมชาติ นับตั้งแต่ภัยแล้ง ภัยหนาว ที่กำลังจะเผชิญขณะนี้ น้ำในลำน้ำยมมีความจำเป็นต้องกั้นถึง 26 จุด และอีก 87 จุดในลำน้ำสาขา จะมีการสำรวจอีกครั้งว่าใช้ได้จริงหรือไม่ นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จังหวัดแพร่จะดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
ส่วนความแตกแยกทางการเมืองในจังหวัดแพร่ มีการร่วมมือแก้ไขได้อย่างน่าพอใจ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก