ลำปาง - ประธานสภาไก่ขาวเดือด ส่งหนังสือร้องตั้งแต่ผู้ว่าฯ ยันกองปราบฯ-คสช. ค้านการตั้งปลัด จ.ลำปาง ไม่เป็นไปตามขั้นตอน ทั้งยังพบพิรุธในเอกสารแนบไม่ได้ออกมาจากต้นสังกัดเดิม
วันนี้ (24 ก.ย.) นายกิตติ จิวะสันติการ ประธานสภาเทศบาลนครลำปาง และกรรมการผู้แทนเทศบาลในคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดลำปาง (ก.ท.จ.ลำปาง) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเมื่อวันที่ 19 ก.ย. เพื่อขอให้ยกเลิกมติ กท.จ.ลำปาง ระเบียบวาระที่ 4.23 ในการประชุมครั้งที่ 8/2557 เมื่อวันที่ 18 ก.ย. กรณีการแต่งตั้งนายพิชิต โมกศรี อดีตปลัดเทศบาลเมืองแพร่ เข้ารับตำแหน่งปลัดเทศบาลนครลำปาง เนื่องจากการกระทำทุจริตปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ของนางทิพย์รวี รัตนรังสรรค์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ กท.จ.ลำปาง กับพวก
โดยนอกจากจะขอให้ยกเลิกมติดังกล่าวแล้ว ยังขอให้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างจริงจังโดยด่วน และลงโทษผู้กระทำความผิด รวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคนตามอำนาจหน้าที่โดยเด็ดขาด ตามนโยบายของ คสช.
พร้อมกันนี้ยังได้มีการส่งหนังสือต่อให้กับ คสช. สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเขาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ให้ดำเนินคดีต่อนายกิตติภูมิ นามวงศ์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กับพวกในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารเท็จ ซื่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อ กท.จ.ลำปาง และทางราชการ ไว้แล้ว
เนื่องจากเห็นว่าการแต่งตั้งปลัดเทศบาลนครลำปางที่ว่างลงครั้งนี้มีพิรุธหลายอย่าง เพราะหลังตำแหน่งปลัดเทศบาลว่างลงเพียง 4 วัน นายกเทศมนตรีได้เสนอชื่อนายพิชิตกลับเข้ารับตำแหน่งปลัดเทศบาลนครลำปาง โดยที่ไม่ดำเนินการตามประกาศของ กท.จ. เรื่องหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของเทศบาล พ.ศ. 2545 ข้อ 139
ต่อมาการประชุม กท.จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 15 สิหาคม ได้มีการบรรจุเรื่องดังกล่าวในวาระที่ 4.17 ระหว่างประชุมเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นจังหวัดลำปาง ได้นำเอกสารแจกกรรมการจำนวน 2 รายการ ซึ่งเป็นหนังสือจากเทศบาลนครลำปาง เรื่องขอส่งข้อมูลประวัติการทำงานของนายพิชิต โมกศรี เพิ่มเติม โดยมีสิ่งที่ส่งมาด้วยคือ สำเนาหนังสือเทศบาลเมืองแพร่ 3 แผ่น และหนังสือจากเทศบาลเมืองแพร่ ถึงท้องถิ่นจังหวัดแพร่ อีก 1 ฉบับ และการประชุมในครั้งนั้นคณะกรรมการได้มีมติให้ชะลอการพิจารณาไปก่อนจนกว่าจะได้รับหนังสือจากท้องถิ่นจังหวัดแพร่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเอกสารแนบที่เทศบาลนครลำปางส่งมาเห็นพิรุธหลายประการ ทั้งลายเซ็นเอกสารของนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ระหว่างใบปะหน้า กับเอกสารแนบที่แตกต่างกัน นอกจากนี้เนื้อหาต่างๆ ในเอกสารแนบก็ไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องความประพฤติของนายพิชิต โมกศรี แต่อย่างใด
ดังนั้นตนจึงได้ตัดสินใจทำหนังสือไปยังเทศบาลเมืองแพร่ เพื่อขอให้ตรวจสอบเอกสารที่ออกจากเทศบาลเมืองแพร่ ทั้งใบปะหน้า เอกสารแนบ 3 แผ่นดังกล่าว ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ซึ่งเทศบาลเมืองแพร่ได้แจ้งเป็นหนังสือกลับมาว่า เป็นเอกสารที่เทศบาลเมืองแพร่ออกให้จริง โดยเอกสารที่ทางเทศบาลเมืองแพร่ออกให้มี 16 แผ่น
หลังจากที่ตนได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวแล้ว ก็ได้ส่งสำเนาทั้งหมดให้ท้องถิ่นจังหวัดลำปาง เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการพิจารณาของ กท.จ. ในการประชุมครั้งต่อไป
นายกิตติระบุว่า เมื่อถึงวันที่ประชุม (18 ก.ย.) ได้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณา เพื่อขอความเห็นชอบอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการไม่ได้นำเอกสารสำคัญที่เทศบาลเมืองแพร่ส่งมาให้ และเอกสารที่ตนนำส่งคณะกรรมการได้ตรวจสอบแม้แต่แผ่นเดียว เพียงแต่สรุปว่าทางเทศบาลเมืองแพร่ได้มีหนังสือตอบกลับมาเกี่ยวกับการพิจารณารับบุคคลเข้ารับตำแหน่งว่าสามารถทำได้ตามคุณสมบัติข้อ 119 โดยไม่มีการนำเอกสารมาแสดงต่อที่ประชุมแต่อย่างใด
ซึ่งการสรุปข้อความดังกล่าวยังแก้ไขข้อความผิดไปจากมติ กท.จ. ครั้งที่ 5/2557 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2557 ได้เสนอไว้ คือ ให้ตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการเสนอขอความเห็นชอบบรรจุกลับเข้ารับราชการของเทศบาลนครลำปาง ว่าดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ ข้อ 139 หรือไม่ ทำให้กรรมการไม่ได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง จึงมีมติ 13:2 ให้รับนายพิชิต โมกศรี เข้าดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาลนครลำปาง