สุรินทร์- ทนายเมืองช้างโวยงงเป็นไก่ตาแตก! ถูกบริษัทให้บริการโทรศัพท์มือถือชื่อดังเรียกเก็บค่าส่ง SMS แบบวินาทีต่อวินาที รวมมากถึง 302 ครั้ง ทั้งที่ไม่เคยส่ง จี้บริษัทรับผิดชอบ และชี้แจงเพื่อเป็นผลดีต่อบริษัทเอง และผู้บริโภคทั่วประเทศ
วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายคำสิงห์ ชอบมี อาชีพทนายความ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/2 ม.2 ต.ราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบรายเดือนๆ ละ 899 บาท ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลังบิลเรียกเก็บเงินค่าโทรศัพท์รอบเดือนกันยายน 2557 ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีการเรียกเก็บค่าบริการส่วนเกิน ค่าใช้บริการอื่นๆ เป็นค่าส่งออกข้อความ (SMS) ที่ส่งออกรวมมากถึง 302 ครั้ง ในระยะเวลา 3 วัน ค่าส่งครั้งละ 2 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 604 บาท
แยกเป็นวันเวลาดังนี้ วันที่ 8/8/57 เวลา 23.03.57-23.05.07 น. จำนวน 41 ครั้ง, วันที่ 9/8/57เวลา 17.07.23-17.08.59 น. จำนวน 68 ครั้ง และช่วงเวลา 21.29.05-21.30.43 น. จำนวน 59 ครั้ง และวันที่ 11/8/57 เวลา 11.09.27-11.11.15 น. จำนวน 46 ครั้ง ช่วงเวลา 20.24.46-20.25.57 น. จำนวน 45 ครั้ง และเวลา 21.48.55-21.49.53 น. จำนวน 43 ครั้ง รวม 302 ครั้ง ทั้งที่ไม่เคยใช้บริการส่งข้อความ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกส่งไป นายคำสิงห์ ก็ไม่รู้จักอีกด้วย
นายคำสิงห์ กล่าวอีกว่า ตนใช้บริการโทรศัพท์มือถือของบริษัท ทรู หมายเลข 08-9019-5982 มีบิลแจ้งให้ไปชำระในรอบเดือนกันยายน 2557 ระบุค่าบริการรายเดือน 899 บาท และค่าใช้บริการส่วนเกิน ค่าบริการอื่นๆ อีก 604 บาท ซึ่งเมื่อไปชำระเงินในวันที่ 13 ตุลาคม 2557 ได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่บริษัท ทรู สาขาโรบินสัน สุรินทร์ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้พิมพ์รายละเอียดการใช้บริการออกมาให้ทราบปรากฏว่า เงินจำนวน 604 บาทนั้น เป็นเรื่องของการส่งข้อความ SMS ซึ่งมีรายการส่งข้อความ SMS อย่างต่อเนื่องแบบวินาทีต่อวินาที รวมจำนวนมากถึง 302 ครั้ง ภายในระยะเวลา 3 วัน คิดค่าส่งครั้งละ 2 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 604 บาท ทั้งที่ตนใช้โทรศัพท์ เครื่องเดียว และไม่เคยส่งข้อความไปหาผู้ใดทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ในรายงานรายละเอียดค่าใช้บริการที่เจ้าหน้าที่พิมพ์ออกมาให้ยังพบว่า หมายเลขโทรศัพท์ของตนได้มีการส่ง SMS ถึงหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการส่งข้อความไปหาตัวเองถึง 2 ครั้ง คือวันที่ 8 สิงหาคม 2557 กับวันที่ 9 สิงหาคม 2557 เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่น่าเป็นไปได้ แต่กลับพบพิรุธเช่นนี้ถึง 2 ครั้ง ซึ่งตนได้ยืนยันว่าไม่ได้ทำการส่งข้อความ SMS แต่อย่างใด
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผานมา ได้ไปทวงถามความคืบหน้าต่อเจ้าหน้าที่พนักงานบริษัท ทรู สาขา โรบินสัน สุรินทร์ ปรากฏว่า ยังให้รายละเอียดอะไรไม่ได้ บอกเพียงว่ากำลังส่งเรื่องให้บริษัทสำนักงานใหญ่ตรวจสอบให้ ซึ่งตนเห็นว่าการที่บริษัท ทรู เรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บริการในลักษณะมีข้อพิรุธ มีการส่งข้อความเพียง 3 วัน ถึง 302 ครั้ง และเป็นการส่งข้อความระยะเวลาติดต่อกันประมาณวินาทีต่อวินาที ตนเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ผู้ใช้บริการบริษัท ทรู ทั่วประเทศอาจเจอเหมือนตนแต่อาจไม่กล้าโต้เถียง หรือนำเสนอให้บริษัทรับทราบ
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าถึงแม้เงิน 604 บาท จะไม่ใช่จำนวนมาก แต่หากผู้ใช้บริการ ทรู มีอยู่ทั่วประเทศโดนแบบนี้สักหมื่นคนเชื่อว่าบริษัทนี้ได้กำไรมหาศาล
ดังนั้น การที่ตนออกมาร้องเรียนร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนเพียงแต่อยากให้บริษัท ทรู นั้นได้ทำการตรวจสอบในเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ ระบบการจัดเก็บเงินให้ถูกต้อง โปร่งใส ตนเชื่อว่าเป็นความบกพร่องของทางบริษัทที่ทำการเรียกเก็บเงินต่อผู้ใช้บริการอย่างตน
“ฉะนั้นจึงขอร้องเรียนทางบริษัท ทรู ให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีต่อผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัทและผู้บริโภคต่อไป” นายคำสิงห์ กล่าว