ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบัง แจงรับฟังเสียงชาวบ้านพร้อมให้ตรวจสอบสิทธิ พร้อมเผยเตรียมตั้งคณะกรรมพิจารณาหลักฐาน พร้อมจ่ายค่าชดเเชย หากพบมีการตกสำรวจจริง
จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 4 ตำบลทุ่งศุขลา อำเภอศรีราชา ที่ถูกเวนคืนที่ดินสร้างท่าเรือแหลมฉบังเมื่อปี 2521 ร้องว่ายังไม่ได้รับเงินค่าเวนคืนที่ดินนั้น ล่าสุด ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เผยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ขั้นตอนการเวนคืนที่ดินปี 2521 นั้นได้มีการเวนคืนที่ดิน จำนวน 6,341 ไร่ รวมอยู่กับที่ดินราชพัสดุอีก 1 พันกว่าไร่ด้วย โดยกำหนดหลักการจ่ายเงินชดเชยเป็น 4 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ยินดีรับเงินชดเชย และค่าเวนคืนไปแล้ว โดยมอบโฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3 คืนให้แก่ท่าเรือ และออกจากพื้นที่ไป
กลุ่มที่ 2 มีเอกสารสิทธิ โฉนด น.ส.3 แต่ไม่ยอมรับเงิน และไม่ยอมออกจากพื้นที่ กลุ่มนี้ท่าเรือก็ได้จดชื่อลงทะเบียนไว้ และคำนวณยอดเงินว่าแต่ละคนจะได้เท่าไร ก่อนนำเงินไปฝากที่ธนาคารออมสิน สาขาศรีราชา ในชื่อบัญชีของคนที่ได้รับสิทธิ หากยินยอมออกจากพื้นที่ก็สามารถไปเบิกเงินที่ธนาคารได้เลย
กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่ไม่มีเอกสารสิทธิ แต่มีตัวตนอยู่ในพื้นที่ ณ เวลาสำรวจ กลุ่มนี้ก็ได้รับเงินชดเชยแล้วลงชื่อจดทะเบียนรับเงินไว้ ก่อนจะออกจากพื้นที่ไป
กลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราชพัสดุ กลุ่มนี้จะมีชื่อที่กรมธนารักษ์ กรมธนารักษ์เป็นผู้ดำเนินการคิดค่าเช่าจากท่าเรือแหลมฉบัง เป็นหนี้สินผูกพันกับท่าเรือแหลมฉบังที่จะต้องจ่ายให้แก่กรมธนารักษ์ต่อไป
ร.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องที่ชาวบ้านไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย มีท่าเรือแหลมฉบัง เทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา ให้ติดตามเรื่องนี้ และทางท่าเรือแหลมฉบังได้เตรียมเอกสารไว้พร้อมแล้ว
โดยนำชาวบ้านไปชี้จุดเพื่อสำแดงสิทธิ ถ้าพบว่าชาวบ้านมีสิทธิจริงแล้วตกสำรวจ ก็จะดำเนินการจ่ายเงินให้ แต่ถ้ามีการจ่ายเงินไปแล้วก็จะทำความเข้าใจกันว่าไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้จริงๆ ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์สิทธิ พิสูจน์เอกสารต่อสำนักงานที่ดินร่วมด้วย ซึ่งถ้าชาวบ้านรายใดสงสัยว่าส่วนของตนได้รับเงินไปแล้วหรือไม่อย่างไร สามารถติดต่อที่สำนักงานท่าเรือแหลมฉบังได้ตลอดเวลา
“ด้านชาวบ้านเป็นกังวลเรื่องที่ไปอยู่ในที่ดินที่ภาครัฐจัดให้บริเวณห้างขโมย หรือบริเวณชุมชนหนองคล้าใหม่นั้น ในตอนนี้ทางท่าเรือ ไม่มีนโยบายที่จะไล่ให้ผู้ที่ถูกเวนคืนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นออกไปไหน มีแต่นโยบายให้ชาวบ้านได้รับความสะดวกสบายที่สุด แต่ต้องเข้าไปสำรวจผู้อยู่อาศัยเพราะทราบว่า มีผู้อื่นแอบแฝงเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ผู้ที่มีสิทธิจริงได้รับความเดือดร้อน”
จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 4 ตำบลทุ่งศุขลา อำเภอศรีราชา ที่ถูกเวนคืนที่ดินสร้างท่าเรือแหลมฉบังเมื่อปี 2521 ร้องว่ายังไม่ได้รับเงินค่าเวนคืนที่ดินนั้น ล่าสุด ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เผยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ขั้นตอนการเวนคืนที่ดินปี 2521 นั้นได้มีการเวนคืนที่ดิน จำนวน 6,341 ไร่ รวมอยู่กับที่ดินราชพัสดุอีก 1 พันกว่าไร่ด้วย โดยกำหนดหลักการจ่ายเงินชดเชยเป็น 4 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ยินดีรับเงินชดเชย และค่าเวนคืนไปแล้ว โดยมอบโฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3 คืนให้แก่ท่าเรือ และออกจากพื้นที่ไป
กลุ่มที่ 2 มีเอกสารสิทธิ โฉนด น.ส.3 แต่ไม่ยอมรับเงิน และไม่ยอมออกจากพื้นที่ กลุ่มนี้ท่าเรือก็ได้จดชื่อลงทะเบียนไว้ และคำนวณยอดเงินว่าแต่ละคนจะได้เท่าไร ก่อนนำเงินไปฝากที่ธนาคารออมสิน สาขาศรีราชา ในชื่อบัญชีของคนที่ได้รับสิทธิ หากยินยอมออกจากพื้นที่ก็สามารถไปเบิกเงินที่ธนาคารได้เลย
กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่ไม่มีเอกสารสิทธิ แต่มีตัวตนอยู่ในพื้นที่ ณ เวลาสำรวจ กลุ่มนี้ก็ได้รับเงินชดเชยแล้วลงชื่อจดทะเบียนรับเงินไว้ ก่อนจะออกจากพื้นที่ไป
กลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราชพัสดุ กลุ่มนี้จะมีชื่อที่กรมธนารักษ์ กรมธนารักษ์เป็นผู้ดำเนินการคิดค่าเช่าจากท่าเรือแหลมฉบัง เป็นหนี้สินผูกพันกับท่าเรือแหลมฉบังที่จะต้องจ่ายให้แก่กรมธนารักษ์ต่อไป
ร.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องที่ชาวบ้านไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย มีท่าเรือแหลมฉบัง เทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา ให้ติดตามเรื่องนี้ และทางท่าเรือแหลมฉบังได้เตรียมเอกสารไว้พร้อมแล้ว
โดยนำชาวบ้านไปชี้จุดเพื่อสำแดงสิทธิ ถ้าพบว่าชาวบ้านมีสิทธิจริงแล้วตกสำรวจ ก็จะดำเนินการจ่ายเงินให้ แต่ถ้ามีการจ่ายเงินไปแล้วก็จะทำความเข้าใจกันว่าไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้จริงๆ ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์สิทธิ พิสูจน์เอกสารต่อสำนักงานที่ดินร่วมด้วย ซึ่งถ้าชาวบ้านรายใดสงสัยว่าส่วนของตนได้รับเงินไปแล้วหรือไม่อย่างไร สามารถติดต่อที่สำนักงานท่าเรือแหลมฉบังได้ตลอดเวลา
“ด้านชาวบ้านเป็นกังวลเรื่องที่ไปอยู่ในที่ดินที่ภาครัฐจัดให้บริเวณห้างขโมย หรือบริเวณชุมชนหนองคล้าใหม่นั้น ในตอนนี้ทางท่าเรือ ไม่มีนโยบายที่จะไล่ให้ผู้ที่ถูกเวนคืนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นออกไปไหน มีแต่นโยบายให้ชาวบ้านได้รับความสะดวกสบายที่สุด แต่ต้องเข้าไปสำรวจผู้อยู่อาศัยเพราะทราบว่า มีผู้อื่นแอบแฝงเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ผู้ที่มีสิทธิจริงได้รับความเดือดร้อน”
