ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ผู้ว่าฯ โคราช ขีดเส้นตายให้กลุ่มนายทุนร้านอาหาร 51 ราย รื้อถอนพ้น “มอปลาย่าง” เขื่อนลำตะคอง ภายใน 20 พ.ย.นี้ ปิดฉากบุกรุกที่ดินรัฐมานานกว่า 20 ปี ขู่หากผู้ประกอบการยังเหิมเกริมไม่ปฏิบัติตามพร้อมงัดกฎอัยการศึกใช้บังคับ พร้อมมอบให้ท้องถิ่น และหน่วยรัฐเจ้าของพื้นที่ดำเนินการ หากจนท.ละเว้น เจอ ม.157 เล่นงาน
วันนี้ (17 ต.ค.) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบกิจการร้านอาหารบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาว่า ล่าสุด คณะทำงานได้ลงตรวจสอบพื้นที่ และหารือถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยที่ประชุมมีมติตรงกันว่า เห็นด้วยในการผลักดันผู้ประกอบกิจการร้านค้าออกจากพื้นที่บุกรุกบริเวณลำตะคอง โดยไม่ให้ผู้ประกอบการเช่าพื้นที่ แต่ควรจัดหาพื้นที่ใหม่รองรับกรณีผู้ประกอบการร้องขอ
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา ไปขอใช้พื้นที่ทหารเพื่อรองรับผู้ประกอบการ และจะไม่มีการจ่ายเงินค่ารื้อถอนให้แก่ผู้ประกอบกิจการร้านอาหารที่บุกรุกที่ราชพัสดุบริเวณลำตะคอง (มอปลาย่าง) ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลหนองสาหร่าย ธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา แขวงการทาง ชลประทาน บังคับใช้กฎหมายของตนเองตามระยะเวลาที่กำหนดของแต่ละหน่วยงานภายในวันที่ 20 พ.ย.2557 เพื่อเป็นการผลักดันให้ผู้ประกอบการออกจากพื้นที่เอง หากส่วนราชการไม่ปฏิบัติหน้าที่ ให้แจ้งความกล่าวหาฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามมาตรา 157
หากดำเนินการตามที่กล่าวมาข้างต้นไม่สำเร็จจะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ประกอบการ โดยให้ผู้ประกอบการร้านค้าทั้ง 51 ราย ปิดกิจการภายในวันที่ 16 ม.ค.2558 โดยให้ทำการรื้อถอนออกจากพื้นที่ทั้งหมดภายในวันที่ 14 ก.พ. 2558 และ ในเดือน มี.ค.2558 ให้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันหลังถูกกลุ่มนายทุนร้านอาหารบุกรุกเป็นปัญหายืดเยื้อมากว่า 20 ปี
“ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้อำเภอปากช่อง ติดตามดูท่าที และการเคลื่อนไหวของผู้ประกอบกิจการทั้ง 51 ราย และให้กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) เชิญผู้ประกอบการที่ไม่ยอมรื้อถอนร้านค้าไปปรับทัศนคติในฐานะผู้บังคับใช้กฎอัยการศึก โดยข้อสรุปดังกล่าวจะนำเสนอต่อแม่ทัพภาคที่ 2 กระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมธนารักษ์ ได้รับทราบแนวทางในการปฏิบัติ” นายธงชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ประกอบการบางรายเริ่มทำการรื้อถอนร้านค้าแล้ว เบื้องต้นเท่าที่พูดคุยผู้ประกอบการส่วนใหญ่พร้อมจะปฏิบัติตาม ซึ่งความจริงเราไม่มีหน้าที่หาสถานที่ใหม่ให้คนที่ทำผิดกฎหมาย แต่ด้วยหลักมนุษยธรรม และกลุ่มผู้ประกอบการก็เป็นผู้ที่ทำมาหากิน ฉะนั้นการหาสถานที่ใหม่ให้ประกอบการก็ถือเป็นการช่วยเหลือ แต่ทางรัฐจะไม่สร้างสิ่งก่อสร้างให้ เรื่องนี้ผู้ประกอบการต้องลงทุนเอง แต่ต้องเป็นรูปแบบที่รัฐกำหนดให้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย นายธงชัย กล่าวในตอนท้าย
