ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รองผู้ว่าฯ โคราชนำทีมคณะทำงานแก้ปัญหาบุกรุกที่ดินราชพัสดุฯ ชุดเล็กลงพื้นที่สำรวจร้านอาหารบุกรุก “มอปลาย่าง” เขื่อนลำตะคอง เพื่อรวบรวมข้อมูลชงเข้าที่ประชุมใหญ่ระดับจังหวัด 22 ก.ย.นี้ ฟันธงให้เช่าหรือรื้อถอน ด้านฝ่ายกฎหมาย ทภ.2 ลั่นผู้บุกรุกที่ดินรัฐต้องย้ายออก ชี้ ปชช.ท้ายน้ำต้องกิน และใช้น้ำของเสียจากร้านค้าคงไม่ยอม
วันนี้ (20 ก.ย.) นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบกิจการร้านอาหาร บริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (ชุดเล็ก) ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการร้านอาหารบุกรุกมอปลาย่าง ริมเขื่อนลำตะคอง ว่า ตนพร้อมด้วยคณะทำงานฯ ชุดเล็ก ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ผู้แทนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง นายอำเภอปากช่อง นายก อบต.หนองสาหร่าย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.หนองสาหร่าย ธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา และตัวแทนจากผู้ประกอบการร้านค้ามอปลาย่าง อีก 4 ราย ได้ร่วมกันลงตรวจสอบพื้นที่ร้านอาหารบริเวณมอปลาย่าง ริมเขื่อนลำตะคอง
เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้คณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งมี นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินราชพัสดุฯ ดังกล่าว
การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อต้องการดูให้แน่ชัดว่า มีร้านอาหารที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนเท่าไหร่ และมีที่ดินของหน่วยงานใดเกี่ยวข้องบ้าง รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะมาสรุปเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมวันจันที่ 22 ก.ย.นี้ เวลา 13.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะคณะกรรมการชุดใหญ่จะร่วมประชุมหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการให้พิจารณาเรื่องการให้ร้านอาหารเช่าพื้นที่ แต่ยังอยู่ในขั้นของการรวบรวมข้อมูล ยังไม่มีการสรุปเป็นที่แน่ชัดว่าจะให้เช่าหรือไม่ โดยในวันที่ 22 ก.ย.นี้ คณะกรรมการจะร่วมกันหารือถึงทางออกปัญหาดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาเรื้อรังมานานกว่า 20 ปี ฉะนั้นการที่จะมาแก้ไขปัญหาในวันเดียวจบคงเป็นไปไม่ได้ ต้องมีการหารือกันหลายๆ ฝ่ายอย่างรอบคอบ
ด้าน พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงเรื่องเดียวกันว่า จากการลงตรวจสอบพื้นที่พบว่า บริเวณดังกล่าวไม่มีพื้นที่เหลือให้ที่เป็นของสาธารณะแล้ว เนื่องจากถูกจับจองเป็นร้านอาหารหมดแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงพื้นที่ใดที่เป็นของสาธารณะก็จะต้องเป็นของสาธารณะ ไม่ใช่จะนำไปเป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารริมเขื่อนลำตะคองได้เข้ามาพูดคุยหารือแล้ว ตนได้แจ้งว่ามีการปล่อยน้ำเสียลงไปในลำตะคอง ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องกิน และใช้ของเสียจากร้านค้าดังกล่าว ต้องกลับไปคิดกันว่ากลุ่มคนท้ายน้ำจะยอมรับได้หรือไม่
พ.อ.สมหมาย กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นได้ชี้แจงต่อผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณมอปลาย่างทั้งหมดขอให้พูดจากันด้วยเหตุและผลดีกว่า เพราะไม่อยากให้ใช้หลักนิติศาสตร์ หรือกฎหมายมาพูดคุยกัน หากต้องใช้คงต้องมีการใช้กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าไปยึดทรัพย์ด้วย ฉะนั้นผู้ประกอบการเองควรต้องถอยคนละก้าว โดยตนได้ให้ไปสำรวจพื้นที่ว่า มีผู้ประกอบการที่ต้องการค้าขายอยู่กี่ราย และต้องการพื้นที่จำนวนกี่ไร่ เพื่อที่จะส่งเรื่องให้ทางส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาให้
“แต่ที่แน่นอนคือ ทุกคนที่บุกรุกที่ดินของรัฐดังกล่าวจะต้องย้ายออก ส่วนจะให้ผู้ประกอบการย้ายออกเมื่อไหร่นั้นจะมีการหารือคณะกรรมการระดับจังหวัดอีกครั้งในวันที่ 22 ก.ย.นี้ ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา” พ.อ.สมหมาย กล่าว
