ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชสั่งกลุ่มนายทุนร้านอาหารบุกรุก “มอปลาย่าง” ริมเขื่อนลำตะคอง ออกจากพื้นที่และจัดหาสถานที่ใหม่ให้ เผยสั่งธนารักษ์เก็บข้อมูลรายละเอียดร้านค้าทั้งหมดรวมถึงสถานที่ใหม่ที่จะย้ายไปอยู่นำเข้าที่ประชุมอีกครั้งเพื่อกำหนดเวลาย้ายออก ด้านฝ่ายกฎหมาย ทภ.2 ยันต้องออกและดำเนินการกับ จนท.รัฐละเว้นปล่อยให้บุกรุกเรื้อรังมานานกว่า 20 ปี
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (22 ก.ย.) ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบกิจการร้านอาหาร บริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) ครั้งที่ 3/2557 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา, นายอำเภอปากช่อง, รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2, ตัวแทนแขวงการทางนครราชสีมาที่ 2 และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เข้าร่วมประชุม
รวมทั้งมีกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารบุกรุกมอปลาย่าง ริมเขื่อนลำตะคอง เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย ซึ่งในที่ประชุมได้มีการหารือกันอย่างเคร่งเครียด ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง
นายธงชัยเปิดเผยว่า การหารือของคณะทำงานฯ ในวันนี้เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐบริเวณมอปลาย่าง ซึ่งที่ประชุมได้เสนอทางออกเรื่องดังกล่าว 2 แนวทาง คือหนึ่งย้ายออกจากพื้นที่และหาสถานที่ใหม่ให้ ส่วนแนวทางที่ 2 คือ ให้เช่า ซึ่งประเด็นนี้มีกลุ่มคนคัดค้านค่อนข้างมาก ฉะนั้นวันนี้จึงได้มอบหมายให้ธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมาจัดทำรายละเอียดข้อมูลทั้งหมด ทั้งจำนวนผู้ประกอบการ 51 ราย ว่าเป็นใครมาจากไหน มีพื้นที่ประกอบการเท่าไร และต้องการประกอบกิจการต่อหรือไม่
รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ใหม่บริเวณศูนย์รวมรถตรงข้ามศูนย์ฝึกสุนัขทหาร ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่ามีที่ดินจำนวนเท่าไร สามารถจัดสรรได้อย่างไร จากนั้นให้นำข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้ง คาดว่าจะนัดประชุมหลังวันที่ 1 ต.ค.นี้เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจน
นายธงชัยกล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าวคือ ต้องให้ผู้ประกอบการร้านอาหารออกจากพื้นที่มอปลาย่าง ริมเขื่อนลำตะคอง เพื่อคืนพื้นที่สาธารณะให้แก่ส่วนรวม ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนลำตะคอง และยังเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำเน่าเสียจากร้านอาหารที่ทิ้งลงสู่เขื่อนลำตะคองได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบการเองทางจังหวัดฯ เห็นใจ แต่เมื่อทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามแนวทางที่รัฐเสนอให้ และต้องเข้าใจในสิ่งที่รัฐเสนอเพราะเมื่อทำความผิดแล้วคงจะไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องใดๆ ส่วนจะให้ย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวเมื่อใดนั้นขอให้รอที่ประชุมครั้งต่อไป และเชื่อว่าผู้ประกอบการเองคงเข้าใจและไม่มีการคัดค้านเกิดขึ้นในพื้นที่
ส่วนจะเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกพื้นที่ยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปีหรือไม่นั้น นายธงชัยกล่าวว่าเรื่องนี้จะต้องพิจารณากันต่อไปว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเองมีเจตนาที่จะแก้ไขปัญหาหรือไม่ หรือปล่อยปละละเลยให้ปัญหาดังกล่าวหมักหมมมานาน ในการประชุมครั้งต่อไปจะหารือเรื่องนี้ด้วย
ด้าน พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของรัฐเป็นของสาธารณะก็ต้องเป็นของส่วนรวม ตนเป็นคนหนึ่งในฐานะที่อาศัยอยู่แผ่นดินย่าโมจะไม่ยอมให้นำที่ดินดังกล่าวไปเป็นของคนใดคนหนึ่ง หรือไปใช้ประโยชน์เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแน่นอน
วันนี้อยากถามว่า การก่อสร้างร้านอาหารทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อนุญาตได้อย่างไร และการบุกรุกที่เห็นโจ่งแจ้งปล่อยมาได้อย่างไร เรื่องนี้จะต้องดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยที่ปล่อยปละละเลย ซึ่งเรื่องนี้เราได้รับเรื่องร้องเรียนจากทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายที่คัดค้านการให้เช่าพื้นที่ และฝ่ายผู้ประกอบการร้านอาหาร แต่สิ่งไหนที่ถูกต้องก็ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากปล่อยให้มีการบุกรุกกันไปอีก ต่อไปก็จะไม่มีที่ดินของส่วนรวมให้คนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
“ทั้งนี้ ยืนยันวันว่าผู้ประกอบการร้านอาหารต้องออกจากพื้นที่ดังกล่าว และเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยปละละเลยไม่จัดการก็ต้องได้รับการลงโทษเช่นกัน โดยจะให้ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีนิติกร จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่เป็นทีมงานลงมาดูเรื่องนี้อีกทางหนึ่งด้วย แต่เบื้องต้นจะฟังข้อมูลจากทางฝ่ายจังหวัดว่าจะดำเนินการในส่วนใด และจะให้ทางทหารเข้ามาช่วยอย่างไร” พ.อ.สมหมายกล่าว
