ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราช ชี้ “พะเยาโมเดล” ยกที่ดิน ส.ป.ก.ให้นายทุนเช่านำมาใช้แก้ปัญหาฮุบที่ดิน ส.ป.ก. “วังน้ำเขียว” โคราชไม่ได้ ยันต้องยึดเจตนารมณ์เดิมของกฎหมาย ระบุหากให้คนรวยเช่าก็ไม่มีที่ดินเหลือไว้สำหรับคนจน และกลายเป็นโมเดลของผู้ประกอบการธุรกิจทั้งหมด ลั่นการดำเนินคดีผู้ทำผิด กม.ต้องเดินหน้าต่อ
วันนี้ (25 ต.ค.) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง และการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ผิดประเภท ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ว่า จากการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาการยึดครองที่ดินและใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง อุทยานแห่งชาติทับลาน และพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน ใน อ.วังน้ำเขียว ครั้งล่าสุด ตามคำสั่งของจังหวัดนครราชสีมา ที่ 3788/2557 นั้น ยังหาข้อสรุปในการดำเนินการต่อพื้นที่ทั้งหมดไม่ได้ จึงต้องแยกออกเป็นส่วนๆ ไป ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการของอุทยานฯ และป่าไม้
โดยแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง ช่วงเขาแผงม้า นั้น คณะกรรมการมีวิธีการโดยจะยึดหลักการแบ่งโซนพื้นที่ เช่น โซนซี โซนอี โซนเศรษฐกิจ และโซนอนุรักษ์มาเป็นแนวทาง แล้วจะไปผนวกกับแนวคิดของกรมป่าไม้ที่กำลังจะทำเรื่องหมู่บ้านป่าไม้ ในส่วนของอุทยานแห่งชาติทับลานทั้งหมดนั้นจะหารืออีกครั้ง
ส่วนพื้นที่ ส.ป.ก.นั้น ได้ให้ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัดนครราชสีมา เร่งรวบรวมเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วนเพื่อดำเนินตามกฎหมาย ในส่วนที่อยู่ในขั้นตอนของศาลประมาณ 10 ราย ก็ให้เดินหน้าต่อไป และกำลังรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องศาลเพิ่มเติมอีก 7 ราย ก็ให้ทำไป
สำหรับการยึดคืนที่ ส.ป.ก.ใน จ.นครราชสีมา ที่ใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น การสร้างรีสอร์ต หรือทำบ้านพักตากอาการหรูต่างๆ นั้น สุดท้ายตนคิดว่าให้ไปดูเจตนารมณ์ของ ส.ป.ก. ซึ่งกฎหมาย ส.ป.ก.มี พ.ร.บ.ว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ปี 2518 สมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี และมีระเบียบกฎเกณฑ์ เจตนารมณ์ครั้งแรกชัดเจนอยู่แล้วคือ มอบให้แก่คนยากไร้ไม่มีที่ดินทำกินได้มีที่ดินทำกินเป็นพื้นฐานสำคัญของความมั่นคงของชาติ หากจะมาเปลี่ยนเจตนารมณ์เดิมก็สุดแท้แต่นโยบายว่า สถานการณ์ปี 2518 มาถึงวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหรือไม่ เช่นหากคิดว่าจะไปจัดให้เช่า เจตนารมณ์ก็ต้องหายไป คนที่มาเช่าได้ต้องเป็นคนที่มีเงินไม่ใช่คนจน
“อย่างไรก็ตาม เจตนารมณ์ของกฎหมายระบุชัดเจนไว้อยู่แล้ว ซึ่งหากให้เช่าก็ต้องลืมคนจน หากฟ้องก็คือ ยึดหลักเดิม ทั้งนี้ คนจนผู้ยากไร้ต้องมีที่ดินทำกิน และต้องมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ส.ป.ก. เพราะที่ดินของ ส.ป.ก.เป็นที่ดินของคนทั่วประเทศ ซึ่งคนทั่วประเทศมีความพร้อมหรือยังที่จะไปให้คนเช่า หรือจะให้คนยากจนมีที่อยู่อาศัย ก็ต้องบังคับตามนั้น แต่ที่นี่คนจนส่วนใหญ่พอได้ที่ ส.ป.ก.แล้วก็เอาไปขายต่อ เป็นต้น” นายธงชัย กล่าว
นายธงชัย กล่าวต่อว่า ส่วนจะเทียบเคียงนำเอากรณีการแก้ปัญหาของ “พะเยาโมเดล” มาใช้ที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นั้น ตนยังไม่ทราบเรื่อง ทราบเพียงว่ามีการนำที่ ส.ป.ก.ไปให้เช่า แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเช่า ส่วนราชการ หรือประชาชน หรือคนรวย โดยส่วนตัวเห็นว่าต้องยึดเจตนารมณ์เดิม หากให้เช่าได้ก็ไม่เหลือ อย่างที่ดิน อ.วังน้ำเขียว ส่วนตัวคิดว่าหากเอาคืนมาได้แล้วก็น่าจะไปจัดสรรให้คนยากจนมากกว่าจะให้คนรวยมาเช่า ต้องยึดตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ส.ป.ก.ก่อน นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงเจตนารมณ์ก็มาว่ากันอีกที
ต่อข้อถามที่ว่าผู้บกรุกใน อ.วังน้ำเขียว จะใช้กรณีของพะเยาโมเดลมาต่อสู้ในศาลว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ และใช้สองมาตรฐานหรือไม่นั้น นายธงชัย ตอบว่า มันไม่มีสองมาตรฐานอะไร คือคนที่อยากได้ก็พูดเข้าข้างตัวเอง พูดให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง พูดได้ทุกรูปแบบ ฉะนั้นต้องกลับไปดูหลักการของเจตนารมณ์เดิม แม้แต่ส่วนราชการขอใช้พื้นที่ก็มีระเบียบของ ส.ป.ก.ให้ทำได้ เช่น เอาไปสร้างโรงเรียนให้ลูกหลานเกษตรกรที่ทำกินอยู่ได้มีอาคารเรียน ซึ่งที่ ส.ป.ก.วังน้ำเขียวมีเป็นหมื่นไร่
“กรณีพะเยาโมเดล ที่มีเอกชนเข้าไปสร้างหอพักมากมายนั้น ส่วนตัวคิดว่าหากเป็นแบบนั้น คนก็อ้างพะเยาโมเดลมาดำเนินการในพื้นที่ ส.ป.ก.หมด สุดท้ายไม่เหลืออะไร มันจะเหลือโมเดลของผู้ประกอบธุรกิจทั้งหมด แล้วโมเดลคนยากจนหายไปไหน” นายธงชัย กล่าว