xs
xsm
sm
md
lg

กอ.รมน.นำป่าไม้สอบสิทธิทำกินกลางป่า “สวนเมี่ยง” ขู่เจอนายทุนรุกจับทันที

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - กอ.รมน.บุกสอบผืนป่าเตรียมการ อช.แก่งเจ็ดแคว หลังชาวบ้านร้องคนของรัฐผ่อนผันสิทธิทำกินในป่าไม่เป็นธรรม บอกยังไม่จับกุม รอสำรวจสิทธิถือครอง เทียบภาพถ่ายดาวเทียมปี 45 คาดรู้ผล ธ.ค.นี้

วันนี้ (20 ต.ค.) พ.อ.โอฬาร หาญสุรภานนท์ รอง ผอ.รมน.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 พิษณุโลก เข้าตรวจสอบป่าสวนเมี่ยง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก หลังชาวบ้านหมู่ 3 ต.สวนเมี่ยง อ.ชาติตระการ ร้องเรียนว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐและผู้นำท้องถิ่น ต.สวนเมี่ยง ตรวจสอบการถือครองที่ดิน พร้อมจัดทำบันทึกผ่อนผันให้ราษฎรทำกินมีกำหนด 2 ปีอย่างไม่เป็นธรรม เพราะมีผู้บุกรุกทำกินหลายแปลง ในเขตพื้นที่เตรียมการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว แต่มีการผ่อนปรนไม่เหมือนกัน

โดยพบว่าชาวบ้าน 13 รายที่มีที่ดินทำกินอยู่กลางป่าเตรียมการ มีไร่ข้าวโพด ไร่มันสำปะหลัง และสวนยางพารา จึงตรวจสอบสถานะผู้เข้าทำประโยชน์เบื้องต้น ว่าเข้าครอบครองก่อนหรือหลังวันที่ 30 มิถุนายน 2541 โดยจะประสานป่าไม้นำภาพถ่ายดาวเทียมปี 2545 มาเปรียบเทียบ แต่ไม่มีการตรวจยึดหรือจับกุมดำเนินคดี เพราะต้องรอคณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาต่อไป

พ.อ.โอฬารเปิดเผยว่า การลงพื้นที่วันนี้ยังไม่ได้จับกุมหรือตรวจยึด เนื่องจากคำสั่ง คสช.ให้ชะลอไว้ก่อน แม้ว่าชาวบ้านบางรายซื้อขายเปลี่ยนมือเพื่อทำสวนยางหลายปี ก็ทำได้เพียงแจ้งสิทธิ ตักเตือน และบอกกล่าวถึงความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปต้องดำเนินการกลุ่มผู้บุกรุกให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หากจับกุมดำเนินคดีก็ต้องกระทำทั้งหมด เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ชาวบ้าน กรณีผู้บุกรุกเป็นนายทุนจะถูกจับกุมทันที

ทั้งนี้ กอ.รมน.วางหลักการเบื้องต้น คือ สั่งการให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เดินสำรวจสิทธิถือครองของชาวบ้านทุกตำบลในป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ ว่าทำกินกี่ไร่ อยู่ในเขตป่ากี่ไร่ เป็นผู้ยากไร้ หรือเป็นผู้มีถิ่นฐานเดิมหรือไม่ โดยเลือกตำบลนำร่อง 1 แห่งในแต่ละผืนป่า แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ทุกตำบล เพราะไม่มีงบประมาณ และต้องใช้เวลามากพอที่จะเดินสำรวจ แต่หากสำเร็จจะนำแนวทาง 1 ตำบลนำร่อเป็นต้นแบบนำเสนอจังหวัด พิจารณาสำรวจตำบลที่เหลือต่อไป

เบื้องต้นเดือนธันวาคมนี้จะทราบว่าผลการสำรวจสิทธิราษฎรทำกินในเขตป่าในตำบลนำร่อง อาทิ ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย ทราบแล้วว่ามีคนทำกินในเขตป่าสงวน 9,800 ไร่ หากราษฎรทำกินมาก่อนเปรียบเทียบภาพดาวเทียมปี 2545 แล้วถูกต้อง แต่มั่นใจว่าจะมีพื้นที่อีกส่วนที่ไม่ถูกต้อง เป็นการบุกรุกหรือเปิดพื้นที่ใหม่ ก็จะต้องคืนพื้นที่ทำกินแก่รัฐ เชื่อว่าจะสามารถคืนผืนป่าแก่แผ่นดินได้แน่นอน



กำลังโหลดความคิดเห็น