กลุ่มกะเหรี่ยงอุทัยฯ ฮือขึ้นศาลากลางร้องถูกยึดที่ทำกินไม่เป็นธรรม

อุทัยธานี - ชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงรวมตัวบุกศูนย์ดำรงธรรมร้องขอความเห็นใจถูกเจ้าหน้าที่บุกยึดที่ทำกินตามยุทธการทวงคืนผืนป่า ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักกลัวไม่มีที่ทำกิน

วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวไทยภูเข่าเผ่ากะเหรี่ยงที่มีที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำกินในเขตวนอุทยานห้วยคต ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ได้รวมตัวกันประมาณ 50 คน เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เพื่อยื่นหนังสือและร้องขอความเป็นธรรมผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯ

หลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าตามแผนปฏิบัติการปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อทวงคืนผืนป่าที่มีการบุกรุกกลับมาเป็นของรัฐ ในพื้นที่วนอุทยานห้วยคต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ซึ่งมีพื้นที่ถูกบุกรุกก่อนปี 2547 หรือในบล็อก จำนวน 284 แปลง เนื้อที่ 3,470 ไร่ และพื้นที่บุกรุกหลังปี 2547 หรือนอกบล็อก จำนวน 91 แปลง เนื้อที่ 2,800 ไร่ โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเป็นหลักฐาน

กลุ่มชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงอ้างว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่ทำกินมาหลายชั่วอายุคนแล้ว หากถูกยึดคืนไปก็จะไม่มีพื้นที่ทำกินอีกต่อไป และการที่เจ้าหน้าที่ให้เวลาทำกินในพื้นที่ที่มีการบุกรุกก่อนปี 2547 หรือพื้นที่ในบล็อกอีกเพียง 3 ปี และพื้นที่บุกรุกหลังปี 2547 หรือพื้นที่นอกบล็อกอีกเพียง 1 ปี ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดี ถือว่าน้อยเกินไป จึงขอให้มีการผ่อนปรนให้นานกว่านี้

ด้านนายขจรชัย วัฒนาประยูร ปลัดจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เข้ารับหนังสือร้องเรียน พร้อมรับปากกับชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงว่าจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางผ่อนปรนเพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

ทั้งนี้ หากต้องมีการยึดพื้นที่จริงตามกฎหมายก็จะมีการพิจารณาหาพื้นที่ทำกินให้ใหม่ โดยการจัดสรรจาก ส.ป.ก.ต่อไป ทำให้กลุ่มชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงพอใจแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน