เล็งเสนอ “ประยุทธ์” จัดการทุจริตสร้างสนามฟุตซอล

อุบลราชธานี - องค์กรตรวจสอบทุจริตเอกชนลงตรวจสอบการสร้างสนามฟุตซอลในพื้นที่การประถมศึกษาเขต 1 อุบลราชธานี พบทุจริตไม่ได้มาตรฐาน เหตุนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง กำหนดสเปกเอง เตรียมสรุปความผิดปกติทั้งที่ จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ นครราชสีมา ศรีสะเกษ ยโสธร ส่ง “พล.อ.ประยุทธ์” เร่งจัดการคนทุจริต

วันนี้ (16 ต.ค.) ที่จังหวัดอุบลราชธานี นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ หรือ ภตช. พร้อมคณะได้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อและก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 ที่โรงเรียนชุมชนบ้านหัวเรือ ต.หัวเรือ อ.เมืองอุบลราชธานี

โดยมี ดร.วิชัย แสงสี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมอุบลราชธานี เขต 1 และนายวรชัย ศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านหัวเรือนำตรวจ หลังจากตรวจสอบพบว่าโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนแห่งนี้เป็นสนามฟุตซอลขนาดกว้าง 22 เมตร ยาว 42 เมตร ใช้วัสดุพลาสติกโพลีพร็อพไพลีนโคพอลิเมอร์ปูพื้นสนาม สร้างแล้วเสร็จและส่งมอบไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 มีระยะประกัน 2 ปี

นายมงคลกิตต์กล่าวหลังการตรวจสอบวัสดุและพื้นสนามฟุตซอลว่า มีการจัดซื้อที่ราคาสูงเกินจริงหลายเท่า และพื้นสนามใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยจะใช้พลาสติกเกรดต่ำคล้ายๆ กับพลาสติกที่ใช้ทำตะกร้าใส่ผลไม้ ซึ่งไม่มีความยืดหยุ่น ทำให้พื้นสนามฟุตซอลชำรุดเสียหายได้ง่าย โดยปกติพื้นสนามฟุตซอลมาตรฐานจะต้องเป็นพื้นยางอัดอย่างดี โดยพื้นยางอัดราคาท้องตลาดตกที่ตารางเมตรละ 250 บาท แต่ที่ใช้ในปัจจุบันแจ้งราคามาที่ตารางเมตรละ 1,500 บาท ทำให้การสร้างสนามต้องใช้งบประมาณมากถึง 2.4-2.5 ล้านบาท ทั้งที่ความจริงวัสดุเกรดดีมีราคาไม่เกิน 5 แสนบาท

แต่มีการตั้งราคาสูงเกินความจริงถึง 5 เท่า สาเหตุเพราะเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย จากนักการเมืองถึงคนระดับรัฐมนตรีและอธิบดี ในส่วนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมอุบลราชธานีมี 5 เขต ได้รับงบประมาณก่อสร้างจำนวน 19 โรง และแทบทุกจังหวัดที่ลงไปตรวจสอบพบว่าผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ได้ของบประมาณ แต่ฝ่ายการเมืองเป็นผู้จัดมาให้และบีบบังคับให้ครูต้องยอมรับโครงการนี้มาก่อสร้าง บางแห่งพบว่าตอนแปรญัตติของ ส.ส.ของบประมาณซ่อมปรับปรุงตัวอาคาร เมื่อ ครม.อนุมัติไม่ได้นำไปใช้เป็นงบซ่อมแซม เพราะมีคนขอแก้ไขโครงการระหว่างทางใช้จัดทำสนามฟุตซอลแทน

“หลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดในจังหวัดนครราชสีมา ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จะรวบรวมข้อมูลการทุจริตทั้งหมด ส่งเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปเอาผิดนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง โดยไม่ต้องเสียเวลามาตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับข้าราชการระดับปฏิบัติภายใน 2 สัปดาห์” นายมงคลกิตต์กล่าว