เครือข่ายกองทุนฟื้นฟูฯ จี้ “บิ๊กตู่” เร่งเดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกรด่วน

อุทัยธานี - เกษตรกรเครือข่ายกองทุนฟื้นฟูฯ จังหวัดอุทัยธานี กว่า 300 คน บุกเข้าร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม จี้ “ประยุทธ์” เร่งเดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้สินเกษตรกร

วันนี้ (9 ต.ค.) นายวิศิษฐ คูรัตนเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี, นายสิทธิพงษ์ ขำเดช เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี, นายขจรชัย วัฒนาประยูร ปลัดจังหวัดอุทัยธานี ได้เข้ารับหนังสือร้องเรียนจากนางสุนันท์ พุ่มทอง ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ภาคเหนือ จังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยเกษตรกรจังหวัดอุทัยธานีกว่า 300 คน ที่รวมตัวเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัดอุทัยธานี

เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีส่งหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่มแนวร่วมเกษตรกรกองทุนฟื้นฟูฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาปรับโครงสร้างหนี้สินเกษตรกร ตามที่มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 เรื่องเห็นชอบขยายเวลาการดำเนินโครงการปรับโครงสร้างหนี้สินและฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 7 เมษายน 2553 ออกไปเป็นเวลา 18 เดือน

พร้อมกับได้อนุมัติเปลี่ยนแปลงงบประมาณ 5,870 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และการจัดการหนี้ของเกษตรกร พร้อมทั้งค่าใช้จ่ายดำเนินงานของสำนักงานกองทุนฯ เนื่องจากโครงการปรับโครงสร้างหนี้ฯ ให้แก่เกษตรจำนวน 510,000 ราย

โดยให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ชำระเงินให้สถาบันการเงินแค่ 50% ของเงินต้นคงค้างภายในระยะเวลา 15 ปี เมื่อชำระหนี้ครบตามสัญญาที่ตกลงกัน หนี้ในส่วนที่พักไว้ทั้งหมดจะได้รับการยกเว้นจากสถาบันการเงิน ซึ่งมีธนาคารเข้าร่วม 4 ธนาคาร คือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย และให้งานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเป็นผู้ดำเนินการร่วมกับสถาบันการเงินดังกล่าว โดยมีระยะเวลาตามโครงการ 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2553-2556

โดยตอนนี้สำนักงบประมาณฯ ได้โอนเงินงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการให้กองทุนฟื้นฟูฯ แล้ว และยังคงเหลือจำนวนเงินที่ค้างบัญชีจำนวน 2,387 ล้านบาท โดยฝากเงินไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แต่ธนาคารได้นำเงินฝากดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในทางอื่น ทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหายมากว่า 5 ปีแล้ว จึงได้เข้าร้องเรียนเพื่อให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้อย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้รับหนังสือร้องเรียน พร้อมกับพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกร และรับปากจะส่งหนังสือร้องเรียนดังกล่าวไปให้ที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รับทราบ และแก้ปัญหาต่อไป ทำให้กลุ่มเกษตรกรพอใจและแยกย้ายกันกลับ